layover turnaround

Layover คือ

การไปพักค้างคืน นอก Base ของสายการบิน

เสน่ห์ งานแอร์ อยู่ที่ Layover

ถ้าว่ากันถึงสิ่งที่ลูกเรือจะได้รับจากหน้าที่การงานนี้ คือ เราจะได้บินไปประเทศต่างๆทั่วโลกขึ้นอยู่กับรูทบินของบริษัทที่เราทำงาน ลูกเรือจะได้พักค้างคืนหรือที่เรียกกันว่า “ Layover ” แต่ละที่ที่เราจะได้พัก ระยะเวลาก็จะสั้นยาวแตกต่างกันออกไป

Layover มี 2 แบบ

  1. เลโอเว่อร์ แบบยาว ที่มี Day Off
  2. เลโอเว่อร์ แบบสั้น ที่ได้พักแบบสั้นๆ เรียกสั้นๆ ว่า ดมหมอน

** ดมหมอน คือ การที่เราได้ไปพัก Layover นอนโรงแรมหรู นอกเบส ในส่วนเวลาสั้นๆ แค่นอนละกลับ ยังไม่ได้เที่ยวเลย ไปดมหมอน เฉยๆ อิอิ คำศัพท์แอร์แขก วันละนิด จิตแจ่มใส ค่ะ **

Layover with Day Off

บางประเทศได้อยู่กันหลายคืน หรือเรียกว่า “Day off outstation” (DOFF) ระยะเวลาการได้เลย์โอเวอร์แบบนี้ทำให้ลูกเรือมีเวลาได้ท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ โดยที่ไม่ต้องตาลีตาเหลือกกันมากนัก

ได้ชิล ได้ช้อปปิ้ง เยี่ยมเพื่อน เยี่ยมญาติกันได้เลยทีเดียว พี่นับว่าโชคดีที่ได้เลย์โอเวอร์แบบนี้อยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็น London, Auckland, Kiev, Beijing, Zagreb, Sofia etc.

Layover แบบสั้นๆ

เลโอเวอร์ แบบสั้นๆ เราจะได้อยู่เป็นระยะเวลาสั้นๆ 18 – 24 ชั่วโมงเท่านั้น เลย์โอเวอร์แบบนี้อาจไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนมาก แต่อย่างน้อยได้ไปร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆโรงแรม ได้เดินสูดอากาศบริสุทธิ์แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว

ทุกๆที่ที่น้องๆจะได้บินไปล้วนแต่น่าตื่นตาตื่นใจ และแปลกใหม่สำหรับน้องๆทั้งสิ้น สนุกให้เต็มที่เลยค่ะแต่ก็อย่าลืมว่า ทุกๆที่ก็มีอันตรายเช่นกัน ไม่ใช่บ้านเมืองเราอ่ะเนอะ พี่จึงอยากให้น้องๆคำนึงถึงความปลอดภัยสำหรับตัวเอง รวมทั้งของมีค่าต่างๆ ที่ไหนที่น้องๆไม่มั่นใจที่จะออกเที่ยวคนเดียว ทำความรู้จักกับเพื่อนๆลูกเรือบนไฟร์ทบินนั้นเลยค่า

ประสบการณ์ Layover สุดพีค

ครั้งนึงพี่เคยได้เดย์ออฟที่เมืองโฮจิมินซิตี้ ประเทศเวียดนาม ประเทศนี้ปิ้งย่างเลิศ อร่อยมากกก ก. ไก่ล้านตัว ราคาก็ไม่แพง ไหนจะทั้งนวด ฟินค่ะเลย์โอเวอร์นี้

แต่ๆๆๆๆอย่างที่บอกทุกที่ล้วนมีอันตราย พี่ไม่ได้ขู่ให้กลัวนะคะแต่อยากให้ระวัง เพราะนี่เป็นประสบการณ์โดยตรงที่เกิดขี้นกับพี่เอง จำได้ว่าออกไปนวดกับเพื่อนลูกเรือคนไทยที่เวียดนาม พอนวดเสร็จก็ทานข้าวและแยกย้ายกันกลับห้องพัก แต่ตัวพี่เองอยากซื้อผักก่อนบินกลับเพราะเห็นว่ามีร้านขายผักไม่ไกลจากโรงแรมนัก ตอนนั้นพี่แต่งตัวแบบเสื้อยืด กางเกงขาสั้นธรรมดาๆ และก็สะพายกระเป๋าแบบ crossbody และคิดว่าแต่งตัวไม่ให้เป็นจุดสนใจ สะพายกระเป๋าแบบนั้นก็คิดว่าปลอดภัยสุด เพราะอย่างน้อยทรัพย์สินทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเรา แต่หารู้ไม่ว่าพวกมิจฉาชีพก็จ้องอยู่ บวกกับคนมันจะซวย…

ตอนนั้นแยกกับเพื่อนเพียงแป๊บเดียวและมันก็เกิดขึ้นเร็วมาก เพราะจู่ๆก็มีรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง มีคนขับพร้อมกับคนซ้อนวิ่งมาประกบแล้วกระชากกระเป๋าที่พี่สะพาย ความแรงของมอเตอร์ไซค์ทำให้พี่โดนกระชากไปด้วย และโดนลากไปตามพื้น ตอนนั้นร้องตะโกนเสียงดังมาก เรียกว่าแหกปากเลยก็ว่าได้ ถึงขนาดชาวบ้านแถวนั้นออกมากันเยอะมาก

เดชะบุญสายกระเป๋าขาด โจรมันไม่ได้อะไรไปเลย แต่เจ็บค่ะ เจ็บตัว หัวเข่าถลอก ข้อศอกถลอก ด้านซ้ายนี่เจ็บไปหมด แต่โชคดีที่หัวไม่ฟาด หน้าไม่ถลอก ถ้าเป็นอย่างนั้นไม่อยากจะคิดเลยว่าจะกลับไปทำงานอย่างไร และยังดีที่ชาวบ้านแถวนันช่วยเหลือ ซื้อยามาทาให้และยังใจดีขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งที่โรงแรม

ทำไฟล์กลับยังไง ต่อหล่ะ

ขากลับไฟล์ทวันนั้นยังทำงานได้ หัวหน้าไม่ได้รีพอร์ทว่ามีแผลที่ข้อศอก และโชคยังดีที่เวลาทำงานต้องใส่ dinning jacket ซึ่งความยาวของแขนมันปิดข้อศอกอยู่แล้ว แต่สภาพเวลาโหลดอาหารใส่คาร์ทอย่าพูดถึง ดูทุลักทุเลมาก เพราะงอเข่าด้านซ้ายไม่ได้ โหลดไปก็เหยียดขาซ้ายไว้ ดูไม่จืดเลยงานนี้

Turn Around งานแอร์ คืออะไร

Turnaround คือ

ไฟล์ ไปแล้วกลับ วันนั้นเลย ต้องกลับมานอนบ้าน หรือ มานอนหอพัก เมืองที่ เบส อยู่

รายละเอียด ไฟล์ Turnaround

อีกไฟล์ทการทำงานที่จะเป็นแค่การบินไปและกลับเลย ลูกเรือไม่มีการออกจากเครื่องที่ operateไป ไฟล์ทประเภทนี้เรียกว่า “Turnaround” แต่ก็เคยมีที่ออกจากเครื่องได้ ลูกเรือสามารถไปนั่งรออยู่ใน crew lounge หรือในสนามบินได้ เช่น ไฟล์ทดูไบ

ความยากของการทำ ไฟล์ Turnaround

การทำ turnaround น้องๆต้องทำงานแข่งกับเวลามากๆ ถ้าไฟล์ทนั้นบินเพียงระยะเวลาสั้นๆ น้องจะมีเวลาทำเซอร์วิทไม่กี่นาที เตรียม cart เสร็จจากนั้นก็ต้องรีบเสิร์ฟเลย หรือที่ลูกเรือชอบพูดกันว่า “เซิ้ง” น้องๆต้องทำงานแข่งกับเวลา เสิร์ฟให้เร็วที่สุดแต่ก็ต้องดู professional ถูกต้อง

ยกตัวอย่างเช่น การเสิร์ฟ warm sandwich หรือการเสิร์ฟอาหารว่างให้กับผู้โดยสารพร้อมกับเครื่องดื่ม เราควรเสิร์ฟกล่อง warm sandwich บนกระดาษทิชชู่ และหันกล่องที่มีตัวหนังสืออยู่บนกล่องเข้าทางผู้โดยสาร ไม่ยื่นให้แบบกลับหัวกลับหางค่ะ

ทำไมไม่ค่อยมีคนอยากทำ Turnaround

การทำงานบนไฟล์ Turnaround บินไปและกลับแบบนี้ ไม่ได้ หมายความว่า จะเป็นไฟล์ทแค่สั้นๆเท่านั้น แต่ยังมีไฟล์ทที่ระยะทางบินไปประมาณ 4-6 ชั่วโมง และบินกลับเลย ซึ่งนั่นหมายความว่าระยะเวลาในการบินโดยรวมจะเป็น 8-10 ชั่วโมง เลยทีเดียว

เพราะมัน ค่อนข้างเหนื่อยค่ะ เพราะนี่พูดถึงเวลาบินเท่านั้น ยังไม่รวมเวลาตั้งแต่ที่น้องตื่น เข้าห้องบรีฟ และก้าวขาเข้าเครื่อง เพราะนั่นหมายถึงเวลาที่น้องเริ่มทำงานแล้ว อยากบอกเลยว่าควรนอนพักผ่อนมาให้พอจริงๆ เพราะไฟล์ทพวกนี้ต้องใช้เวลาทำงานทั้งวันเลยค่ะ

การทำงานลูกเรือ ใน 1 เดือน จะได้กี่ Layover และ กี่ Turnaround

ตารางบิน หรือ Roster ลูกเรือ

ตารางบินของลูกเรือจะไม่ตายตัว ชั่งโมงบินในแต่ละเดือนจะไม่เท่ากัน โดยส่วนตัวพี่จะได้ประมาณ 90-120 ชั่วโมง/เดือน ซึ่งสำหรับพี่มันโอเคมากๆ เพราะมันหมายถึงมีชั่วโมงบินเยอะ รายได้ก็จะตามมาเยอะเช่นกัน

แต่เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง พี่เคยได้ถึง 136 ชั่วโมง มี 7 turnarounds และ 6 layovers เหนื่อยขนาดแบบว่าเวลาตื่นนอนมาต้องตั้งสตินิดนึงว่า ตอนนี้ชั้นอยู่ที่ไหน 😀 เคยมีสะดุ้งตื่นจะรีบอาบน้ำแต่งตัว ทั้งๆที่วันนั้นเป็นวันหยุด

บางเดือนถ้าโชคดีมากๆ เดือนนั้นจะไม่มีบินturnaround เลย ก็จะได้บินแต่เลย์โอเวอร์ 6-7 ไฟล์ท บางเดือนก็ได้ turnaround 3-4 ไฟล์ท ซึ่งก็ถือว่าเยอะ แต่ตารางบินก็จะเป็นแบบนี้ คละๆกันไป

การดูแลตัวเอง หากได้ 100 ชั่วโมง อัพ

การบินเยอะๆ อาจจะเหนื่อยล้า เพราะเนื่องมาจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ การบินข้าม Time Zone หรือความเครียด จนพาไปสู่อาการ “fatigue” ได้ การทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมทั้งการดื่มน้ำอย่างเพียงพอ ก็สามารถช่วยได้ ถึงเวลาที่ควรนอนพักผ่อน ก็ควรนอนให้เต็มที่ ชั่วโมงบินจะเยอะหรือน้อยอย่างไร สุดท้ายลูกเรือทุกคนจะมีวันหยุด หรือลีฟประจำปี เมื่อมีหน้าที่ก็ควรทำอย่างเต็มที่ เดี๋ยวก็ได้พักแล้วค่ะ 🙂

อารมณ์เหนื่อย ท้อ มันเกิดขึ้น แต่พี่ก็อยากให้น้องคิดว่า “Everything has cost to pay” น้องๆอยากได้อะไรอย่างที่ตั้งใจกลับมา น้องๆก็ต้องลงทุน ทุ่มแรงกายแรงใจ แล้วความสำเร็จจะอยู่ตรงหน้าในวันหนึ่ง พยายาม 100 ครั้ง ในครั้งที่ 100 เราอาจจะยังไม่สำเร็จ แต่ก็ใช่ว่าครั้งที่ 101 จะไม่ใช่วันของเรา

อ่านต่อ ข้อดี ข้อเสียของการเป็นแอร์

Layover หรือ Turnaround ไหนสุดหิน

โดยส่วนตัว ไฟล์ turnaround สำหรับที่ไม่ง่ายเลยจริงๆ เพราะด้วยความที่เราต้องอยู่แต่บนเครื่องบิน ทำงานแข่งกับเวลามากๆ ทุกอย่างต้องรวดเร็วแต่ก็ต้องถูกต้องในเวลาเดียวกัน

ความยากของไฟล์ Turnaround

สำหรับพี่นั้นความหินมันก็แตกต่างกันไป ไฟล์ทที่สั้นมากๆ อย่างดูไบ ความยากก็อยู่ตรงระยะเวลาการทำงานที่ค่อนข้างจำกัด ไม่แค่เชอร์วิทที่เราต้องทำ แต่มีทั้งการดูแลเรื่องความปลอดภัย หรือ “safety check and security search” เมื่อ take off กัปตันปิดสัญญาณรัดเข็มขัดนั่นหมายความว่าการเสิร์ฟก็ได้เริ่มต้นขึ้น

และอีกความหินเพราะ ไฟล์ทturnaround ไฟล์ทนั้นมีระยะเวลาในการบินค่อนข้างยาวทั้งไปและกลับ ด้วยความที่การเสิร์ฟจะเป็นแบบ Full Service ทำงานอยู่บนเครื่องทั้งวัน และเจอทั้งความต้องการของผู้โดยสารที่มากน้อยแตกต่างกันไป บางไฟล์ทเคยเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกือบหมดทั้งcatering ที่มีให้มา 7 คาร์ทก็มีมาแล้ว

หรือไฟล์ทที่บินไปอเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แอฟริกา ไฟล์ทพวกนี้ลูกเรือจะเจอทั้งเซอร์วิทที่จัดเต็ม ชั่วโมงการบินที่แสนยาวนาน แม้ว่าลูกเรือจะได้ rest onboard ถ้าเราต้องบินไฟล์ทที่มากกว่า 10 ชั่วโมง เราจะได้นอนพักใน crew bunk ค่ะ เครื่องบินที่ใช้จะเป็น ฺB787 B777 A350 และ A380 ลูกเรือบางคนจะมีปัญหาเวลานอนพัก จะนอนไม่หลับ และในเครื่องบินอาการก็ค่อนข้างแห้ง เราจะเจอปัญหาจมูกแห้ง หิวน้ำเช่นกัน ยิ่งถ้านอนไม่หลับ ไหนจะต้องลงมาทำงานต่อ ความยากก็อยู่ตรงนี้เช่นกัน

Top 10 Layover ที่ใครๆก็อยากได้

ความพึงพอใจของลูกเรือที่อยากได้ Layover ค่อนข้างแตกต่าง บางคนจะขอไฟล์ทที่ได้ Meal allowance สูงๆ บางคนขอไฟล์ทที่ได้ไปกินอาหารอร่อยๆ ได้ช้อปปิ้ง หรือบางทีไฟล์ทนั้นเป็นรูทใหม่ที่บริษัทเพิ่งเริ่มมีให้บิน การขอไฟล์ทนั้นก็จะค่อนข้าง popular และค่อนข้างยากที่จะได้เหมือนกัน ยิ่งไฟล์ทที่เดือนนั้นมี day off outstation ก็จะเป็นที่นิยม

สำหรับพี่จะชอบขอไฟล์ทไปเมืองที่ไปทีไรก็ไม่เบื่อ แม้ไฟล์ทนั้นจะค่อนข้างยาก อาจจะต้องเจอ complaint จากผู้โดยสารง่ายหน่อย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเจอนะคะ จะบินยาวนานแค่ไหนก็สู้ตายเพราะคิดว่าในเมื่อเป็นที่ที่เราอยากไป ยังไงตลอดการทำงานก็จะมีความสุข จะมี Layover ที่ไหนบ้างนั้น มาดูกันเลยค่ะ

1. Layover ที่ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ

layover ที่ ลอนดอน

กิจกรรมที่ ลูกเรือ ชอบทำ ที่ ลอนดอน

เรียกได้ว่าเป็น Layover ที่เลิฟที่สุด ทั้งได้ทำเพราะขอเอง หรือบางเดือนก็ได้มาเอง แต่ทุกครั้งที่ได้เห็นว่ามีอยู่ในตารางบินจะมีความสุขมาก เพราะด้วยความที่รักเมืองลอนดอน ชอบสถานที่ต่างๆของเมืองนี้ ทั้งมิวเซียม สถาปัตยกรรมต่างๆ ร้านอาหาร และIrish pub ที่ตกแต่งอย่างหรูหรา สวยงามมีอยู่มากมาย อีกทั้งยังมี market ที่มีอาหารหลายเชื้อชาติ ที่ลอนดอนนี้น้องๆอยากกินอาหารจากประเทศไหนมีให้เลือกได้หมด สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ ไม่ว่าจะเป็น House of Parliament ที่อยู่ตรงฝั่งเหนือของแม่น้ำเทมส์ ได้เห็น Bigฺ Ben สัญลักษณ์อีกที่หนึ่งแห่งกรุงลอนดอน เป็นอะไรที่สวยงามมาก มิวเซียมบางที่ก็เข้าชมได้ฟรี เช่น British Museum, Natural History Museum

การเดินทาง ใน ลอนดอน ฉบับลูกเรือ

การเดินทางโดยใช้ขนส่งสาธารณะ ไม่ว่าจะรถบัส หรือ underground หรือที่นี่จะเรียกกันว่า Tube ก็ง่ายแสนง่าย มาตรงเวลามากๆ เพียงแค่น้องๆโหลด application ที่ชื่อว่า “Tube Map” ก็สามารถกดหาได้ว่าจากสถานีนี้ เดินทางไปอีกสถานีหนึ่งจะใช้เวลาเท่าไร ต้องนั่งสายไหน เดินกี่นาที แอฟนี้จะเป็นตัวช่วยที่จะบอกได้หมดค่ะ

และทุกๆช่วงหน้าหนาวยังมี Winter Wonderland สถานที่ที่เป็น Theme park ตกแต่งด้วยไฟสวยงาม ช่วงคริสมาสต์จะเป็นช่วงที่น่ามาเที่ยวอย่างมาก เมืองจะเต็มไปด้วยไฟตกแต่งตลอดทางทั้งเมือง ที่นี่จึงเป็นเลย์โอเวอร์ที่รักที่สุด และอยู่ในใจเสมอ

2. Layover ที่ มิวนิค ประเทศเยอรมัน

layover เยอรมัน

ไฟล์ทนี้บินไม่นาน แค่ 5-6 ชั่วโมง กราวด์สตาฟใจดี การดีลกันในเรื่อง catering ค่อนข้างง่าย เพียงแค่เราก็ต้องตรวจดูให้ดีว่าได้ทุกอย่างครบหรือไม่ ผู้โดยสารก็ดีค่ะ ไม่จู้จี้จุกจิกแมํว่าจะชอบดื่มมากเท่าไรก็ตาม แค่ลูกเรือบริการอย่างเต็มที่จะไม่มีปัญหาใดใดเกิดขึ้นเลยค่ะ

ที่มิวนิคนี้อากาศดีทั้งช่วงฤดูร้อนหรือฤดูหนาว ยิ่งตอนช่วงรอยต่อระหว่างฤดูร้อนและฤดูหนาว หรือ “Spring” ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีส้ม มีดอกไม้ออกดอกอย่างสวยงาม การเดินเล่นตามสวนต่างๆ ก็จะเพลินๆ สบายตาสบายใจ ตึกราบ้านช่องก็ดูสวยมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ

กิจกรรมที่ ลูกเรือ นิยมทำ ที่ มิวนิค

ยิ่งคนไหนที่ชอบปราสาทหรือพระราชวังที่ประเทศเยอรมันก็มีเยอะแยะ อย่างปราสาทที่ไม่ไกลจากมิวนิคนัก จะมีปราสาทแห่งเทพนิยาย ที่Walt Disney นำไปเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างปราสาทของเจ้าหญิงนิทรา ที่Disneyland แต่ถ้าไม่ไปไหนไกลอยู่ในใจกลางเมืองมิวนิคเลยก็จะเป็น พระราชวังเรสซิเดนซ์ มิวนิค (Residenz Munich)

และอีกหนึงสถานที่เที่ยวใจกลางเมืองที่สามารถชมสถาปัตยกรรมสวยๆ ก็ต้องไปที่จตุรัสมาเรียน พลัทซ์ (Marienplatz) จะเรียกว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเที่ยวมิวนิคเลยก็ว่าได้ ที่นี่จะได้ชมหอคอยที่มีตุ๊กตาเต้นระบำออกมาเต้นเป็นช่วงเวลา มีร้านอาหารรายล้อม สามารถหาขาหมูเยอรมันกิน
ช่วงคริสมาร์ส ก็จะมี Christmas Marketที่น่าเดิน มีโรงเบียร์ที่ขึ้นชื่อ “Hofbräuhaus am Platzl” ข้างในสวยมากกกก

แนะนำอาหารไทย ที่ มิวนิว ฉบับ แอร์แขก

และเวลามามิวนิคพี่จะชอบหาอาหารไทยกินเช่นกัน ร้านอาหารไทยที่มิวนิค หาร้านอร่อยๆรสชาตไทยๆมีอยู่เยอะ อย่างเช่นที่ร้าน Kru Thai Imbiss ร้านแบบธรรมดาๆ แต่อาหารไทยถือว่าอร่อยและจานใหญ่มาก ไปทานก็ถือว่าคุ้มค่า หรือถ้าอยากกินผัดไทย การใช้กูเกิ้ลเพื่อหาร้านไหนมีผัดไทยขายก็ไม่ใช่เรื่องยาก กูเกิ้ลนี่พี่ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมเดินทางที่พี่ขาดไม่ได้เลยค่ะ

3. Layover ที่ โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก

layover denmark

ทำไม แอร์แขก ถึงจอง โคเปน (เฮเกน)

เหตุผลเพราะ Meal Allowance สูงมาก ด้วยความที่ค่าครองชีพที่ประเทศนี้ค่อนข้างแพง และเมืองก็สวย ผู้คนหน้าตาดีมากกกก สูงยาวเข่าดี เหมือนเดินออกมาจากแมกกาซีน มาที่นี่จะไม่หวังshopping เพราะด้วยความที่แพง แต่ sightseeing ก็มีที่ให้ไปเยอะ และที่เที่ยวก็สามารถเดินถึงกันได้ง่ายจากบริเวณใจกลางเมือง

ที่เที่ยวแนะนำ ถ้าได้ไป โคเปน แบบ แอร์สายแขก

ที่เที่ยวที่แนะนำที่ควรไป คือ นูฮาวน์ (Nyhavn) เป็นเขตท่าเรือเก่า มีตึกสีสรรสดใส ถ่ายรูปสวย ใครที่ชอบสะสมแมคเน็ตสามารถเลือกซื้อรูปตึกที่เป็นแลนมาร์คของสถานที่แห่งนี้ได้ วันที่อากาศดีๆก็สามารถเห็นนักดนตรีเปิดหมวก ออกมาเล่นไวโอลิน หรือกีต้าร์ ผู้คนพาสุนัขมาเดินเล่น ก็ดูเพลินไปอีกแบบ

เดินมาอีกไม่ไกลก็จะมีพระราชวังคริสเตียนบอร์ก (Christianborg palace) หรือจะเดินไปเที่ยวปราสาทโรเซนบอร์ก (Rosenborg Castle) ที่บริเวณนั้นจะมีสวน The King’s Garden ตกแต่งไว้สวยงามมาก อากาศก็ดี เพลินตลอดทางที่เดิน

โคเปนเฮเกนยังมีอีกจุดแลนมาร์กอีกหลายที่ล้วนแต่สามารถเดินไปได้ ไม่ว่าจะเป็น The Little Mermaid สัญลักษณ์ที่สำคัญของเมือง, สวนสนุกทิโวลี (Tivoli Garden) ที่ก่อตั้งมาอย่างยาวนานกว่า 200 ปี, ถนนสตรอยก์ (Stroget Street) เป็นถนนคนเดินที่ยาวและเก่าแก่ที่สุดในโลก และเป็นแหล่งรวมของร้านแบรนด์เนมมากมาย

4. Layover ที่ เวียนนา ประเทศออสเตรีย

layover ออสเตรีย

ลูกเรือ สายแขก ตามล่า Layover ที่มี เดย์ออฟ

ตอนนั้นที่อยากทำไฟล์ทนี้เพราะมีเดย์ออฟ ลูกเรือมีแต่คนขอไฟล์ทนี้ และก็ไม่ได้ขอไฟล์ทนี้ทำบ่อยๆ ตอนนั้นที่บินก็โชคดีที่มีเพื่อนที่เคยบินด้วยกันมาก่อนบินทำงานมาด้วย ไฟล์ทนั้นจึงสนุกมากเพราะได้ทำงานด้วยกัน ช่วยงานกัน แถมยังได้ออกเดินเที่ยวด้วยกัน ได้ทำไฟล์ทเวียนนาที่มี dayoff อยู่ 2 ครั้ง โรงแรมที่ได้พักก็ดีมากๆ ครั้งแรกที่ทำได้พักโรงแรมที่่ไกลเมืองหน่อย แต่เป็นโรงแรมที่หรูหราและห้องพักก็ใหญ่มากๆ

โรงแรม ที่ แอร์แขก เค้าพัก

โรงแรมที่ลูกเรือได้พักจะเป็นโรงแรมระดับ 4-5 ดาวทั้งหมด บางโรงแรมจะได้ทานอาหารเช้าฟรีด้วย หรือถ้าไม่ฟรีลูกเรือจะได้ส่วนลด 10-20% สำหรับค่าอาหารและเครื่องดื่ม แน่นอนนี่เป็นสวัสดิการของลูกเรือที่ดีอย่างหนึ่ง ได้ทั้งเงินเวลามาLayover ได้ทั้งส่วนลด

ครั้งแรกที่ได้ไป ได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) เมืองที่มีหมู่บ้านอยู่ริมทะเลสาบ ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่นี่ในฤดูไหนก็ฟิน เพราะสวยทุกฤดู และที่นี่เป็นเหมือนที่ๆฝันว่าจะต้องไปให้ได้ และการเป็นลูกเรือก็ทำให้ความฝันนี้เป็นจริง สรุปก็ไม่ได้ไปที่นี่แค่ครั้งเดียว เพราะหลังจากนั้นก็ได้กลับไปเที่ยวเองอีกครั้งกับเพื่อนๆ สนุกอย่างที่สุด

พอครั้งที่ 2 ได้กลับมาที่เวียนนา อย่างที่บอกได้บินทำงานมากับเพื่อนด้วย โรงแรมเป็นอีกที่หนึ่งที่อยู่ในตัวเมืองเลย สามารถเดินไป supermarket ซื้อของกลับเบสได้ ได้เดินเที่ยวดูเมือง ไปLocal market ที่มีร้านอาหารประจำชาติที่ขอลองสักครั้ง ชื่อว่า “Schnitzel” เป็นเหมือนเนื้อลูกแกะห่อด้วยขนมปังชุบแป้งทอด นั่งจิบไวน์ฟินๆไป

กรุงเวียนนาจะมีแลนมาร์คที่น่าไป คือ St.Stephansplatz Cathedral เป้นโบสถ์อยู่ใจกลางกรุงที่ใหญ่โตมาก รายล้อมด้วยร้านค้า มีท่องเมี่ยวมากมาย ที่นี่ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ครึกครื้น และตึกต่างๆก็สวยงามตามแบบฉบับสถานที่ท่องเที่ยวในยุโรป

5. Layover ที่ ปักกิ่ง ประเทศจีน

layover beijing

ไฟล์ ง่ายๆ กับ เลโอเว่อร์ ที่ประเทศจีน

โดยส่วนตัว..การทำไฟล์ทจีนจะง่ายมาก เพราะด้วยธรรมชาติของผู้โดยสารส่วนใหญ่จะเป็นคนจีนที่บินไปเที่ยวยุโรป และบินกลับประเทศของพวกเขา คนจีนจะน่ารักตรงที่แม้บางทีอาหารที่เราเสิร์ฟ ตัวเลือกนั้นหมด ลูกเรือก็เสนอตัวเลือกอื่นให้ได้โดยพี่ผู้โดยสารก็ไม่มีบ่นอะไร และคนจีนก็ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์น้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นพวกเบียร์ แต่ที่ลูกเรือจะต้องเสิร์ฟมากที่สุดจะเป็นพวกชา กาแฟ อาจจะต้องชงมาเสิร์ฟมากหน่อย พอพวกเขาทานอาหารอะไรเรียบร้อยก็จะนอน ไม่มี call bell 😀 จะตื่นอีกทีก็เสิร์ฟเป็นอาหารชุดที่สองเลย ก่อนแลนด์

แต่พี่เป็นคนที่ไม่ค่อยได้ขอทำไฟล์ทจีน แต่จะได้ทำบ่อยมากๆ ไฟล์ทนี้ที่บินไปปักกิ่งก็จะได้แบบที่มีเดย์ออฟ หรือถ้าไม่มีเลย์โอเวอร์ก็ค่อนข้างยาว พี่ีก็ไม่พลาดที่จะไปเที่ยวกำแพงเมืองจีน หรือ
”กำแพงหมื่นลี้” นี่ก็เป็นอีกทริปที่ประทับใจแม้ว่าการเดินทางจะค่อนข้างไกลหลายชั่วโมงจากโรงแรม ค่ารถก็ไม่ได้ถูก แต่ยังดีที่มีลูกเรืออีกสองคนออกไปด้วย แล้วตอนนั้นเป็นการเที่ยวอย่างลูกเรือตอนที่ยังบินไม่นานด้วย พลังเลยเหลือเยอะ ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

และหน้าหนาวของประเทศจีนก็หนาวอย่าบอกใคร ลมก็แรง อากาศก็แห้ง เดินไกลอีก แต่พอได้เห็นกำแพงเมืองจีนอยู่ตรงหน้ามันเกินคำบรรยาย มันสวย อลังการ สมแล้วที่เป็นหนึ่งในสิ่งมหัสจรรย์ของโลก

โรงแรมที่พักที่ประเทศจีน เรียกได้ว่าทุกเมืองเลยไม่ใช่แค่ที่ในปักกิ่ง ห้องจะใหญ่โตอลังการมาก เตียงใหญ่ นุ่ม นอนสบาย ถ้าไม่ออกไปหาอะไรกินนอกโรงแรม ก็ยังมีร้านอาหารที่อยู่ในโรงแรมที่มีอาหารจีนอร่อยเกือบทุกอย่าง แค่ผัดผักธรรมดาๆยังอร่อยเลยค่ะ นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ลูกเรือบางคนก็อยากทำไฟล์ทจีนเช่นกัน

6. Layover ที่ อินชอน ประเทศเกาหลี

Layover เกาหลี

ไฟล์ เกาหลี สุดฮิต แอบกระซิบ จาก ลูกเรือแขก

ต้องเรียกว่าไฟล์ทนี้ติดอันดับที่ลูกเรือขอทำไฟล์ทมากที่สุดตลอดกาล ใครๆก็อยากได้ ทั้งลูกเรือคนไทย เกาหลีจะชอบมาก เคยบินแบบที่เป็นเพียงลูกเรือไทยคนเดียวนอกนั้น เป็นออนนี่ (ลูกเรือไทยจะชอบเรียกลูกเรือเกาหลีว่า “ออนนี่) ทั้งลำ จนรู้สึกว่านี่ชั้นกำลังบินกับสายการบินแห่งชาติเกาหลีอยู่หรือเนี่ย

การทำไฟล์ทเกาหลี พอได้เช็ครายชื่อลูกเรือว่าหัวหน้าจะเป็นใคร ก็อดที่ก่อนบินจะต้องเตรียมตัวตอบคำถามในห้องบรีฟฟิ่งอย่างหนักไม่ได้ เพราะโดยส่วนใหญ่จะเป็นหัวหน้าชาวเกาหลี ซึ่งมีกิตติศัพท์ถึงความเป๊ะเวอร์ 😀

แต่ทุกอย่างก็ผ่านมาด้วยดี ไฟล์ทจบไม่มีปัญหาอะไร งานเราก็ถือว่าจบเช่นกัน จากนั้นก็ถึงเวลาเอ็นจอยเลย์โอเวอร์ ในหัวนั้นก่อนแลนด์ก็จะนึกถึงแต่ปิ้งย่างเกาหลี เข้าห้องในโรงแรมได้ ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและมุ่งหน้าไปหาอะไรกินทันที เรียกได้ว่าหิ้วท้องรอกินอาหารหลังแลนด์เลยค่ะ

และอีกหนี่งของการมาเกาหลีที่ขาดไม่ได้คือ shopping ลูกเรือบางคนเหมือนทำไฟล์ทมาฟรี เพราะจะหมดกับการshopping ซะเยอะ มาร์คหน้าเกาหลีนี่ถือว่าเด็ด ขายเป็นแพคใหญ่ มีหลายแบบ หลายยี่ห้อให้เลือก ซื้อตุนไว้ดีได้ใช้คุ้มแน่นอน

7. Layover ที่นาริตะ ประเทศญี่ปุ่น

Layover ที่ญี่ปุ่น

บิดให้ตาย นาริตะ กะ ฮาเนดะ

ไฟล์ทนี้ก็ติดอันดับฮอตฮิตไม่แพ้อินชอนเช่นเดียวกัน ลูกเรือคนไทยของเราก็ไม่พลาดที่จะขอทำไฟล์ทนี้ตลอด ทำไฟล์ทญี่ปุ่นน้องจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยว เพราะลูกเรือคนไทยทั้งนั้น อาจจะเป็นเพราะประเทศญี่ปุ่น เรื่องอาหารนั้นอร่อย แค่เดินไป 7-eleven หรือ Lawsons หยิบอะไรมามั่วๆยังอร่อยเลยอ่ะ อร่อยทุกอย่างน้ำตาจะไหล

ที่โรงแรมจะมีรถบริการรับ-ส่งที่ห้างใกล้ๆ สามารถไปเดินซื้อของตุนกลับได้ ไปหาอาหารญี่ปุ่นกินอร่อยๆก็ยังได้ ขากลับถ้าสังเกตกระเป๋าลูกเรือจะหนักมากกกก เพราะส่วนใหญ่จะขนของกินกลับกันทั้งนั้น ทั้งๆที่Layoverนี้ก็แค่ 24 ชั่วโมง แต่คุ้มที่ได้ทำงานแล้วได้ไปกินอาหารอร่อยๆ

** หมายเหตุ การบิดไฟล์ สำหรับ แอร์สายแขกนั้น เป็นที่รู้กัน คือ การรีเวส ขอไฟล์ที่ชอบในระบบ นั่นเอง **

8. Layover ที่ลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา

layover ที่ los angeles

ไฟล์แสนนาน แม้จะ เริ่มจากตะวันออกกลาง ก็เหอะ

ติดอันดับไฟล์ทที่ต้องบินยาวนานแสนนาน แต่ไฟล์ทนี้ก็มาพร้อมกับ day off แถมโรงแรมก็สุดฟินเพราะอยู่ใกล้ๆกับ Disneyland พี่ชอบขอทำไฟล์ทนี้มากๆ เพราะด้วยความที่บินนาน เงินที่ได้จากชั่วโมงบินก็สูงไปด้วย ประกอบกับก็มีเพื่อนอาศัยอยู่ที่นั่น การได้เจอเพื่อนบ่อยๆก็ไม่ใช่เรื่องยาก

แนะนำที่เที่ยว อเมริกา แบบ แอร์แขก

พี่เป็นคนที่อินกับ Disneyland สามารถอยู่ได้ทั้งวันตั้งแต่เปิดจนปิด แต่ถ้าน้องคนไหนอยากไปเที่ยวที่ Disneyland บ้าง อาจจะแบ่งเที่ยวทีละครั้ง เพราะ Disneyland มีทั้งฝั่งที่เครื่องเล่นจะเด็กๆหน่อย เน้นถ่ายรูปกับตัวการ์ตูนสวยๆ ดูขนวนพาเหรด และดูพลุตอนกลางคืน และอีกฝั่งจะออกแนว Adventure เครื่องเล่นจะน่ากลัวกว่า เพราะตั๋วราคาค่อนข้างแพง จะได้เที่ยวได้ทั่วๆ ไม่เหนื่อยมาก

หรือว่าจะนั่งรถไปเที่ยวที่ Hollywood เมืองแห่งดาราดังและภาพยนตร์ ได้เห็นป้าย Hollywood ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ ลูกเรือบางคนจะซื้อทัวร์แบบ one day trip เพื่อไปถ่ายรูปกับป้ายนี้เป็นฉากหลัง

แต่สำหรับพี่ก็ไม่พลาดที่จะไปเที่ยวที่ Universal Studio Hollywood มีความสุขมากกกก มานั่งดูรูปตัวเองที่ถ่ายที่นั่นก็รู้สึกได้เลยว่า ตัวเองมีความสุขจริงๆ รอยยิ้มที่มีแต่ความสุข ที่นี่ก็เป็นอีกที่นึงที่พี่ประทับใจไม่เคยลืม และรู้สึกขอบคุณอาชีพนี้ที่เติมเต็มความสุขให้กับตัวเองได้อย่างมากมาย

9. Layover ที่นิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา

Layover เลโอเว่อร์ ที่นิวยอร์ค

ไฟล์ สุดเลิฟ ฝั่ง อเมริกา

ไฟล์ทนี้พี่จะขอตลอด และก็เป็นไฟล์ทที่ลูกเรือคนอื่นๆก็ชอบเช่นกันถึงแม้ว่าจะเป้นไฟล์ทที่มาอเมริกา แต่เป็นไฟล์ทอเมริกาที่ไม่ยาวมาก บินแค่ 12-13 ชั่วโมงเท่านั้น เสิร์ฟ นอนพักบนไฟล์ทแป๊บๆก็ถึงแล้ว

โรงแรมก็ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก 5th Avenue แหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงของโลก วิวทิวทัศน์ก็ให้อารมณ์เมืองอย่างแท้จริง มีแต่ตึกสูงระฟ้า ยิ่งพอเวลากลางคืนเปิดไฟก็สวยมาก เป็นเมืองที่ไม่เคยหลับจริงๆ

ช่วงคริสมาสต์ ที่ นิวยอร์ค

ยิ่งถ้ามาช่วงคริสต์มาส แล้วมีโอกาสได้เดินไปที่ตึกร็อคกี้เฟลเลอร์ (Rockefeller Center) ก็จะได้เห็นต้นคริสต์มาสใหญ่ยักษ์ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลที่ทั้งชาวนิวยอร์คและนักท่องเที่ยวจากหลายทั่วมุมโลกต่างตั้งตาคอย

อีกที่เที่ยวที่พี่ขอทำไฟล์ทนี้เพื่อจะไปให้เห็นเป็นบุญตาก็คือเทพีเสรีภาพ (The Statue of Liberty) ของขวัญที่ประเทศฝรั่งเศสมอบไว้ให้กับทางอเมริกาในโอกาสที่อเมรกาเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี

อุตส่าห์ตื่นแต่เช้า นั่งsubwayไปที่จุดซื้อตั๋ว เพราะต้องนั่งเรือข้ามไปยังเกาะลิเบอร์ตี้ อากาศในวันนั้นก็เป็นใจ คือหนาวแต่มีแดดออก ท้องฟ้าใสมาก ถ่ายรูปออกมาก็สวย ไปคนเดียวก็อาศัยนักท่องเที่ยวแถวนั้นถ่ายรูปให้ และก็มีช่างภาพที่จะถ่ายรูปให้และได้รูปเดี๋ยวนั้นเลยเป็นที่ระลึก คุ้มค่าอีกหนึ่งที่ที่ได้มาเห็น

นิวยอร์คยังมีอีกหลายที่ท่องเที่ยว ที่ได้ไปก็รู้สึกว้าว ทั้งสะพาน Brooklyn, Central Park

และถ้าอยากกินอาหารอะไรที่ราคาไม่แพง แต่ได้เยอะมาก ไปอเมริกาก็มองหาร้านอาหารจีนอย่าง Panda Express ได้เลย ถูก ดี ไม่แพง หรือตามข้างทางจะเห็นรถเข็นที่ขายพวกฮอทดอก หรือของทอดอย่างปอเปี๊ยะหรือ spring rolls กีมีให้เลือกกินอยู่ทั่วไป

10. Layover ที่ประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นภูเก็ต กระบี่ หรือกรุงเทพ

Layover Phuket

แอร์แขก คิดถึงบ้านเกิด

ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเวลาที่ต้องทำงานอยู่ต่างประเทศนานๆ ก็อดที่จะคิดถึงบ้านไม่ได้ บางเดือนก็มีบ้างที่ขอไฟล์ทมาประเทศไทยสาเหตุเพราะอยากกลับมากินอาหารไทย และก็ซื้อพวกผัก ไข่ หรือของใช้อื่นๆกลับฐาน

รูทประเทศไทยนี่ก็เป็นที่นิยมของลูกเรือชาติอื่นเหมือนกัน ลูกเรือไทยขอไฟล์ทบางทีก็ไม่ไม่ค่อยได้ แต่ชาติอื่นๆก็ได้กันโดยที่ไม่ต้องขอก็มี

ยิ่งเวลามีเดย์ออฟหรือเลย์โอเวอร์ยาวๆนี่ก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก ประเทศไทยเราก็ขึ้นชื่อว่าอาหารอร่อย และลูกเรือก็มองว่าค่าครองชีพที่ประเทศเราก็ไม่แพงนักเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ

ถ้าได้ไปพักที่ภูเก็ต หรือกระบี่ โรงแรมก็ดีมาก ห้องใหญ่แบบ suite room การบริการต้อนรับของพนักงานโรงแรมก็อ่อนน้อม บริการลูกเรืออย่างดี

ลูกเรือที่ได้มาประเทศไทยพวกเขาก็จะได้พักผ่อนเต็มที่ ทั้งนวด กินอาหารไทย ได้ไปบีชสวยๆเหมือนได้มาออร์ลิเดย์เลยก็ว่าได้…