English Test ในวันสัมภาษณ์แอร์/สจ๊วต

English Test Cabin Crew

Cabin Crew English Test

English Test กับการสมัครงานตำแหน่งลูกเรือ จะมีการทดสอบเพียงเล็กน้อยที่ใช้ในการพิจารณาว่า น้องๆเหมาะสมกับงานนี้หรือไม่ ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งด่าน ที่น้องๆหลายคนตกรอบ นั่นก็คือ รอบ English Test นี้ เพราะสายการบินให้ความสำคัญ กับการสื่อสารของลูกเรือด้วยภาษาอังกฤษ มากๆ ดังนั้น นี่จะเป็นส่วนหนึ่งในการประเมิณ ว่าจะ “ผ่าน/ตกรอบ” ค่ะ

และน่าเสียดายที่ มีการรายงานว่า กรรมการค่อนข้างเคร่งครัดกับผู้เข้าสมัครที่เป็นคนเอเชีย เพราะเราไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาหลักหนึ่งในขข้อกำหนดขั้นต่ำของการสมัครตำแหน่งลูกเรือ คือ จะต้องมีความคล่องในใช้ภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นด้านการฟัง การพูด การอ่าน หรือการเขียน

อย่างไรก็ตาม คำว่า”คล่องแคล่ว” ของแต่ละคนมีความหมายต่างกัน ต่อไปนี้เป็นคำนิยามที่จะเป็นประโยชน์มาก ในการช่วยน้องๆพิจารณาว่า”คล่องแคล่ว” ในภาษาอังกฤษในกรณีที่ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแม่เนี่ย จะต้องพิจารณาด้านใดบ้าง:

  • จะต้องสามารถเข้าใจเกือบทั้งหมดเมื่อมีการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็วเมื่อใช้ภาษาอังกฤษกับผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา
  • สามารถแสดงความคิดเห็น ถ่ายทอดความคิดและความรู้สึก ออกมาได้ด้วยประโยคง่ายๆ
  • สามารถตอบคำถามได้อย่างถูกต้อง
  • คนส่วนใหญ่ที่ฟังน้องพูดภาษาอังกฤษ จะต้องเข้าใจว่าน้องพูดว่าน้องๆกำลังพูดเรื่องอะไร
  • สามารถอ่านและทำความเข้าใจกับบทความต่างๆที่เป็นภาษาอังกฤษได้
  • สามารถพูดสรุปภาพยนตร์ที่เคยดู เป็นภาษาอังกฤษได้
  • สามารถเขียนและอ่านได้อย่างถูกต้องสมบรูณ์แบบ ไม่ใช่แค่พอใช้

1. THE 80/20 RULE FOR ENGLISH LEARNERS

เรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างชาญฉลาด เพราะถ้าเรายิ่งใช้ภาษามากเท่าไหร่ เราก็จะจำได้มากเท่านั้นค่ะ มีการใช้กฏ 80-20 Rule ของ Vilfredo Pareto นักเศรษฐศาสตร์ ชาวอิตาเลี่ยน ไว้ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษว่า  80% ของบทสนทนาที่ใช้กันในภาษาอังกฤษนั้น จะใช้คำศัพท์ที่จำเป็นในการสื่อสารเพียง 20% เท่านั้น !!! ดังนั้นให้มุ่มการเรียนรู้ คำศัพท์ไปที่ 20 % ที่จำเป็นเหล่านั้น ค่ะ ​ดูคำศัพท์ภาษาอังกฤษ 100 คำที่พบมากที่สุด

2. การฝึกฝน ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ฉบับแอร์

ยิ่งน้องๆใช้ภาษามากเท่าใด น้องๆก็จะยิ่งเก่งขึ้นเท่านั้น ต่อไปนี้คือวิธีที่น้องๆสามารถฝึกพูดภาษาอังกฤษ ที่บ้านเองได้ทุกวันค่ะ

  • ร้องเพลง หรือ ฟังเพลงโปรด ภาษาอังกฤษ และลองทำความเข้าใจกับเนื้อเพลง แล้วถ้ามีคำศัพท์ไหนไม่เข้าใจก็ Search หาออนไลน์ค่ะ 
  • ดูหนังเยอะๆ ดูซีรี่ได้ยิ่งดีค่ะ โดยดูแบบเป็นเสียงภาษาอังฤษนะคะ และจะเพิ่มเติมเอา Sub ภาษาอังฤษเอาก็ได้ค่ะ ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีช่องทางให้เลือกชมมากมาย ค่ะ
  • อ่านบทความหรือหนังสือเกี่ยวกับหัวข้อที่น้องๆสนใจ
  • ฝึกจดบันทึก เกี่ยวกับความคิดและ ความรู้สึกของเราว่าเรารู้สึกอย่างไรในวันนี้ หรือเหตุการณ์ต่างๆอย่างไรเป็นบทสรุปสั้นๆ และน่าสนใจ
  • ฝึกพูดคุยกับเจ้าของภาษาหรือบุคคลที่มีทักษะมากกว่าเรา พยายามใช้ภาษาอังกฤษในทุกสถานการณ์ อาทิเช่น ส่งข้อความคุยกับเพื่อนเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น หรือแม้แต่คุยกันกับเพื่อนเป็นภาษาอังกฤษ ก็จะช่วยค่ะ
  • ดูยูทูปช่องที่ชอบ ที่เค้าพูดภาษาอังกฤษ และทำ Subtitle

3 มุ่งมั่น ที่จะทำมันให้ออกมาดีขึ้น

ไม่วาเราจะทำอะไรก็ตามค่ะ ถ้าเรามีความมุ่มมั่น มุมานะ ที่จะทำมัน เราจะทำมันสำเร็จค่ะ นี่ควรเป็นหลักการในการดำเนินชีวิตของน้องๆด้วยค่ะ ไม่ใช่เฉพาะแค่ฝึกฝนพูดภาษาอังกฤษเท่านั้น โดยเฉพาะตอนนี้ ในโลกออนไลน์เปิดกว้าง เราไม่รู้อะไร เราก็สามารถเซิ้ดดูได้เสมอค่ะ เดี๋ยวนี้มีคอร์ส สอนภาษาจำนวนมาก ที่สามารถเข้าไปเรียนรู้ได้เช่นเดียวกันกับหนังสือที่มีให้เลือกมากมายค่ะ

คำถามอยู่ที่น้องๆแล้วค่ะว่า น้องๆอยากจะได้มันมาแค่ได้ ที่จะอุทิศเวลาของน้องๆ เพื่อการพูดภาษาอังฤษได้อย่างคล่องแคล่ว มั่นใจ ความสำเร็จมาจากความมุ่มมั่น ตั้งใจค่ะ

4. หาข้อมูล

การค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างข้อสอบ จะช่วยทำให้น้องๆ ได้เตรียมความพร้อมมากขึ้นอย่างเต็มที่ ว่าข้อสอบจะออกมาเป็นอย่างไร จะต้องเขียน Essays ไหม ? หรือว่าเป็นการถามไวยากรณ์ภาษาอังกฤษแบบช้อย ซึ่งข้อสอบเหล่านี้ก็สามารถมีได้หลากหลายรูปแบบ

นอกจากนี้ การที่เราหาข้อมูลไปอย่างดี ก็จะช่วยให้เรารู้ว่า จะเป็นคำถามประมาณไหนด้วยในการเตรียมความพร้อมก่อนวันไปสัมภาษณ์จริง เสริมความมั่นใจ ให้กับตัวเอง ที่ได้มาจากการทำความคุ้นเคย กับภาษาอังฤษ ค่ะ

5. อ่านคำแนะนำอย่างระมัดระวัง

ในระหว่างการสอบ ถึงแม้ว่าจะประหม่า สติจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวขนาดไหน ก็ขอให้ควบคุมมันให้ได้ค่ะ ให้คิดซะว่า เพื่อนๆทุกคนที่มาวันนี้เค้าก็ ตื่นเต้นเหมือนๆกันหมด เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ขอให้เรามีสมาธิ ตั้งสติให้ได้ก็พอ โดยการ ทิ้งความตื่นเต้นนั้นไปซะ แล้วค่อยๆอ่านคำถามที่อยู่ตรงหน้า อ่านโจทย์ให้ดี ให้รอบครอบ ว่าเค้าถามว่าอะไร ไม่ต้องรีบอ่าน และตอบคำถามให้ตรงประเด็น

พร้อมทั้งก่อนส่งก็ตรวจคำตอบให้ดีอีกครั้งด้วยค่ะ ถึงแม้จะมั่นใจแล้วก็ตามยกตัวอย่างเช่นการทำคำถามแบบ Multiple Choices  ถ้าโจทย์บอกให้ วงกลมคำตอบที่ถูกต้อง แทนการทำเครื่องหมาย X เราก็ควรที่จะทำตามคำแนะนำที่โจทย์สั่ง ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าเรามีความสามารถในการปฏิบัติตามคำสั่ง อีกด้วย

6. เขียนให้เข้าใจง่าย

เมื่อทำการทดสอบภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งเมื่อต้องเขียน Essay ขอให้เน้นย้ำตัวเองอยู่เสมอว่า ไม่ควรใช้คำที่ซับซ้อน ขอให้เขียนให้ตรงประเด็น เรียบง่าย ในการทำความเข้าใจสำหรับผู้อ่าน แล้วก็ถ้าใช้ปากกาลบคำผิด ก็ขอให้ลบให้สะอาด ไม่ทำกระดาษยับยู่ยี่ ตอนไปส่งข้อสอบ

7. ตอบให้ตรงประเด็น

เพื่อให้คำตอบที่ถูกต้องมากที่สุด อับดับแรกน้องๆต้องทำความเข้าใจ กับความหมายของคำถามก่อน ให้อ่านใช้เวลาสักนิดอยู่กับคำถาม ดีกว่าเร่งรีบกดดันตัวเอง และตอบคำถามผิดประเด็น แล้วจะมาแก้ทีหลัง มันก็อาจจะมีเวลาไม่มากพอนะคะ อันนี้ระวังให้ดีด้วย

ยกตัวอย่างเช่น  “ถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์นี้….. คุณจะทำอย่างไร?” ให้ใช้เวลาคิดให้ดีว่าจะตอบว่าอย่างไร มันอาจจะฟังดูยากนะคะ แต่ถ้าเราฝึกฝนบ่อยๆ รับรองว่าไม่ยากแน่นอน

8. วางแผนคำตอบ

ก่อนที่จะเขียนคำตอบลงไป ควรวางแผนไว้ในหัวแล้วว่าจะตอบประมาณไหน จะเอาเหตุผลอะไรมา support สิ่งที่เราเขียน ว่าเราจะเขียนอะไรดี ควรเขียให้มีทิศทางว่าเรากำลังจะสื่ออะไรออกมา

9. กะเวลาให้ดี

การทดสอบด้านภาษาอังกฤษ จะมีเวลาให้ทำอย่างกำจัดดังนั้น ให้ตรวจเช็คเวลาว่าจะต้องทำหัวข้อไหนก่อน โดยเมื่อได้รับกระดาษคำถามมา และได้รับอนุญาติให้เปิดกระดาษคำถาม ให้น้องๆ รีบเปิดดูทุกหน้าอ่านแบบ Skim คำถามเหล่าอย่างรวดเร็ว

จากนั้นก็เริ่มทำ โดยให้คอยสังเกตุ นาฬิกาข้อมือ ของตัวเองว่าเหลือเวลาเท่าไหร่แล้ว มีเวลาเพียงพอที่จะตอบคำถามทั้งหมดไหม แล้ว จะมีเวลาเหลือพอที่จะตรวจข้อสอบรึเปล่า

พี่แนะนำให้น้องๆ สวมนาฬิกาข้อมือไป ในวันสัมภาษณ์นะคะ เลือกแบบที่ธรรมดาที่สุด สายเหล็ก ของ Citizen เรียบ และดูดี การที่เรามีนาฬิกาข้อมือ จะช่วยให้เราไม่ต้องคอยกังวลเช็คเวลากับนาฬิกาแขวน แล้วเราก็ไม่ทราบอีกว่าเราจะได้เก้าอี้นั่งทำข้อสอบตรงไหนของห้องประชุม มันอาจจะเป็นตำแหน่งที่มองเห็นนาฬิกาแขวนในห้องไม่ชัดก็ได้

อย่าลืมว่าให้ลองฝึกทำข้อสอบดูที่บ้านด้วย แล้วกำหนดเวลากับตัวเอง เพื่อฝึกให้เราปรับตัว และ รับมือกับความกดดันแบบนี้ที่บ้านค่ะ

10. Relax!

ใช่แล้วค่ะ น้องๆควรผ่อนคลาย ค่ะ นี่เป็นเคล็ดลับที่สำคัญที่สุดข้อหนึ่งก็ว่าได้ และน้องๆควรเอาเคล็ดลับอันนี้ไปใช้กับทุกๆช่วงเวลาในวันสัมภาษณ์ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อให้เราได้คลายความเครียด และ ความกังวลต่างๆ น้องๆบางคนอาจจะสวดมนต์ หรือ ก็ได้ แต่พี่ไม่แนะนำให้นั่งสมาธิ เพราะว่าอาจจะทำให้ดูเหมือนน้อง กำลังนั่งหลับ ซึ่งเราก็ไม่อยากให้ คิดว่าเรานั่งหลับในวันสัมภาษณ์ใช่หรือไม่ แล้วถ้าเป็นกรรมาการมาเห็นหล่ะ มันสามารถ ตีความได้ไปต่างๆนานา เอาเบาๆ อย่าง สวดมนต์ หรือท่องมนต์ในใจแล้วกันนะคะ

นอกจากนี้ ก่อนวันที่จะไปสัมภาษณ์ ก็พยายามนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ ทานอาหารให้อิ่มท้อง สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้น้องมีพลัง ตลอดทั้งวัน

รวมทั้งระหว่างที่มีการทดสอบภาษาอังกฤษด้วย แต่ถ้าน้องรู้ตัวเอง หรือตื่นเต้นกลัวด่านนี้มากกับการทดสอบภาษาอังฤษ ก็ให้คิดว่านี่เป็นเพียงแค่การทดสอบภาษาอังกฤษเท่านั้น มันไม่ได้มาวัดคุณค่าในตัวน้องในฐานะคนคนหนึ่ง ทำใจให้สบายค่ะ

เตรียมตัวในแบบของเรา เพื่อให้เราภูมิใจในตัวเองมากที่สุด เมื่อความสำเร็จมาถึง

Get the Job!

Be ready to answer any interview question

เทคนิค STEP เป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยในการสัมภาษณ์งานของน้องๆ ได้อย่างเป็นระบบ จะช่วยให้หาคำตอบที่สมบรูณ์ และ เหมาะสมที่สุดของแต่ละบุคคล

เรียนแอร์ เพื่อ ให้ผ่านสัมภาษณ์งาน