ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับลูกเรือ เป็นทักษะที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งสำหรับน้องๆ ที่อยากสมัครงานเป็นแอร์โฮสเตสหรือสจ๊วต เพราะบนเครื่องบิน ลูกเรือจะต้องใช้ภาษาอังกฤษตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นตอนสัมภาษณ์งาน Final Interview, การส่ง Video Submission หรือแม้แต่ในชีวิตการทำงานจริงที่ต้องพูดกับผู้โดยสารจากหลายประเทศ

ในบทความนี้ พี่พลอยได้รวบรวม 311 ประโยคภาษาอังกฤษที่ลูกเรือต้องรู้ พร้อมคำแปลภาษาไทย เพื่อให้น้องๆ ใช้ได้จริงในทุกสถานการณ์ ตั้งแต่การทักทายผู้โดยสาร การบริการอาหารและเครื่องดื่ม การขาย Duty-Free การปลอบผู้โดยสารที่กลัวการบิน ไปจนถึงการบอกลาหลังจบเที่ยวบิน

น้องๆ จะได้คลังประโยคภาษาอังกฤษที่ครบถ้วน ใช้ได้จริงบนไฟลท์ ช่วยเพิ่มความมั่นใจทั้งในการสื่อสารและการสมัครงานสายการบิน ไม่ต้องกังวลว่าจะพูดไม่ออกอีกต่อไปค่ะ

ถ้าน้องๆ อยากเตรียมตัวสัมภาษณ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับภาษาอังกฤษลูกเรือ ลองอ่าน
11 คำถามสัมภาษณ์แอร์และสจ๊วต พร้อมคำตอบ
เพื่อเสริมความมั่นใจก่อนวันจริงค่ะ

หากอยากฝึกเพิ่มเติมในชีวิตประจำวันด้วย ลองดู
200 ประโยค ภาษาอังกฤษ ในชีวิตประจำวัน
เพื่อเสริมคลังคำศัพท์การสื่อสารที่ใช้ได้จริงทั้งบนเครื่องและนอกไฟลท์

ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับลูกเรือ

สารบัญ

การทักทายผู้โดยสาร (Passenger Greetings)

ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับลูกเรือ – รวม 311 ประโยคที่ลูกเรือต้องใช้

การทักทายอย่างอบอุ่นจากลูกเรือตั้งแต่เริ่มเดินทางเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผู้โดยสารเกิดความประทับใจ ดังนั้นแอร์และสจ๊วตทุกคนควรหมั่นฝึกฝนการใช้ถ้อยคำสุภาพด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน พร้อมทักทายผู้โดยสารด้วยรอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติ (รอยยิ้มจริงใจ) เพื่อสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยมิตรภาพตั้งแต่ก้าวแรกของผู้โดยสารที่เข้ามาในเครื่อง เสมือนทักทายแขกผู้มีเกียรติเข้าสู่บ้านของเรานั่นเอง

  1. Welcome on board! (ยินดีต้อนรับบนเครื่องค่ะ)
  2. May I see your boarding pass, please? (ขอดูบอร์ดดิ้งพาสด้วยค่ะ)
  3. Please take your seat. (กรุณานั่งที่นั่งของท่านค่ะ)
  4. Enjoy your flight. (ขอให้เพลิดเพลินกับการเดินทางค่ะ)
  5. Have a pleasant journey. (ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพค่ะ)
  6. Good morning, sir/ma’am. (สวัสดีตอนเช้าค่ะ/ครับ)
  7. Good evening, welcome on board. (สวัสดีตอนเย็น ยินดีต้อนรับค่ะ)
  8. This way, please. (เชิญทางนี้ค่ะ)
  9. May I help you with your seat? (ให้ช่วยหาที่นั่งไหมคะ)
  10. Please store your bag in the overhead compartment. (กรุณาเก็บกระเป๋าไว้ในช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะค่ะ)
  11. Please place small items under the seat in front of you. (กรุณาวางของชิ้นเล็กใต้เก้าอี้ด้านหน้าค่ะ)
  12. Your seat is over here. (ที่นั่งของคุณอยู่นี่ค่ะ)
  13. Please let other passengers pass first. (กรุณาให้ผู้โดยสารท่านอื่นผ่านไปก่อนค่ะ)
  14. This is your seat number. (นี่คือหมายเลขที่นั่งของคุณค่ะ)
  15. May I help you find your seat? (ให้ช่วยหาที่นั่งไหมคะ)
  16. Thank you for flying with us today. (ขอบคุณที่เลือกบินกับเราวันนี้ค่ะ)
  17. Welcome back! (ยินดีต้อนรับกลับค่ะ)
  18. May I check your seat number, please? (ขอตรวจสอบหมายเลขที่นั่งหน่อยค่ะ)
  19. Please watch your head. (ระวังศีรษะค่ะ)
  20. Please take your seat quickly, we are about to depart. (กรุณานั่งให้เรียบร้อย เรากำลังจะออกเดินทางค่ะ)

ประโยคเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ **ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับลูกเรือ** ที่สำคัญ เพราะการทักทายด้วยประโยคภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง จะช่วยสร้างความประทับใจแรกพบแก่ผู้โดยสารได้ทันที

การบริการบนเครื่องบิน ภาษาอังกฤษลูกเรือ – บริการอาหารและเครื่องดื่ม

การบริการบนเครื่อง (In-flight Service)

ในระหว่างการบริการบนเครื่องนั้น เราในฐานะลูกเรือ จำเป็นต้องรู้วิธีการพูดภาษาอังกฤษ สำหรับการทำงานบนเครื่องบินด้วย วันนี้พี่ได้รวบรวมเอา ประโยคภาษาอังกฤษ สำหรับลูกเรือ ที่ต้องใช้ในการทำงานบนเครื่องบินว่า ควรพูดแบบนี้นะคะ ไม่ว่าเราจะถาม ผู้โดยสารว่าอยากให้เสิร์ฟ นํ้าอีกไหม หรือ อยากจะขอทาง หน่อยได้ไหมนะคะ เราเหล่าลูกเรือ ก็ควรที่จะพูดอย่างไรมาดูกันค่ะ

  1. Would you like chicken or beef? (คุณจะรับไก่หรือเนื้อดีคะ)
  2. Coffee or tea? (จะรับกาแฟหรือชาคะ)
  3. Would you like sugar and milk? (คุณต้องการน้ำตาลและนมหรือไม่คะ)
  4. Still water or sparkling water? (คุณจะรับน้ำเปล่าหรือน้ำอัดลมคะ)
  5. Please enjoy your meal. (เชิญเพลิดเพลินกับมื้ออาหารค่ะ)
  6. Do you need a napkin? (คุณต้องการกระดาษทิชชูไหมคะ)
  7. May I clear your tray? (ขอเก็บถาดอาหารนะคะ)
  8. Please fold your tray table. (กรุณาพับโต๊ะหน้าที่นั่งค่ะ)
  9. Would you like some snacks? (คุณอยากได้ขนมทานเล่นไหมคะ)
  10. Would you like some more coffee? (คุณอยากได้กาแฟเพิ่มไหมคะ)
  11. Excuse me, may I pass through? (ขอโทษค่ะ ขอเดินผ่านนะคะ)
  12. Please wait for a moment. (กรุณารอสักครู่ค่ะ)
  13. Sorry, we’ve run out of chicken. (ขอโทษค่ะ ไก่หมดแล้วค่ะ)
  14. May I offer you an alternative? (ขอเสนอตัวเลือกอื่นแทนนะคะ)
  15. Would you like a blanket? (คุณอยากได้ผ้าห่มไหมคะ)
  16. Do you need a pillow? (คุณต้องการหมอนหรือไม่คะ)
  17. Please fasten your seatbelt while seated. (กรุณารัดเข็มขัดตลอดเวลาที่นั่งค่ะ)
  18. The lavatory is at the front/back of the cabin. (ห้องน้ำอยู่ด้านหน้า/หลังค่ะ)
  19. Please return to your seat. (กรุณากลับไปนั่งที่นั่งค่ะ)
  20. Excuse me, this is the crew area. (ขอโทษค่ะ บริเวณนี้สำหรับลูกเรือค่ะ)

นอกจากการบริการอาหารและเครื่องดื่มแล้ว ลูกเรือยังต้องใช้ **ประโยคภาษาอังกฤษบนเครื่องบิน** เพื่อขอความร่วมมือจากผู้โดยสาร เช่น การขอทาง การขอให้รัดเข็มขัด หรือการเก็บถาดอาหาร ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็น **ภาษาอังกฤษลูกเรือ** ที่ใช้จริงทุกไฟลท์

นอกจากบทสนทนาในการเสิร์ฟแล้ว คลัง
คำศัพท์ภาษาอังกฤษแอร์/สจ๊วตที่ใช้บ่อยบนเครื่องบินและสนามบิน
ก็ช่วยให้การใช้ ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับลูกเรือ ไหลลื่นขึ้นในทุกไฟลท์

ถ้าอยากอัปสกิลแบบเข้มข้น สามารถดูรายละเอียดคอร์ส
English for Cabin Crew
เพื่อฝึกประโยคใช้งานจริงเพิ่มเติมได้ค่ะ

ถ้าน้องๆ อยากฝึกให้พูดได้คล่องขึ้นในทุกสถานการณ์ ลองอ่าน
20 วิธี ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ให้เก่งขึ้น
เพื่อเพิ่มความมั่นใจและพัฒนาทักษะการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง

การช่วยเหลือผู้โดยสาร (Passenger Assistance)

ความเอาใจใส่และการช่วยเหลือผู้โดยสาร เป็นหนึ่งในบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบที่สำคัญของลูกเรือทุกคน เป็นสิ่งแสดงถึงจิตใจของความเป็นลูกเรือที่ดี และ ทำให้ผู้โดยสารมั่นใจว่าพวกเขาได้รับการดูแล

ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือ ตลอดขั้นตอนการเดินทาง ตั้งแต่การขึ้นเครื่อง การช่วยเหลือยกกระเป๋า การช่วยดูแลผู้โดยสารขณะอยู่บนเครื่อง รวมถึง การให้ความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยในการเดินทาง

และเมื่อลูกเรือใส่ใจ มีน้ำใจในการพูด คำ และ บริการ จะส่งผลดีคือให้ ผู้โดยสาร ได้รับรู้ สัมผัสได้ และ เกิดความประทับใจในที่สุด

ด้านล่างนี้คือ ตัวอย่างบทสนทนาแอร์โฮสเตสเกี่ยวกับ ความช่วยเหลือผู้โดยสาร เราควรพูดว่าอย่างไรบ้าง

  1. May I help you with your luggage? (ให้ช่วยยกกระเป๋าไหมคะ)
  2. Please be careful, it’s heavy. (ระวังนะคะ กระเป๋าหนักค่ะ)
  3. Do you need any assistance? (คุณต้องการความช่วยเหลือไหมคะ)
  4. Are you traveling alone? (คุณเดินทางมาคนเดียวหรือคะ)
  5. May I help you with your seatbelt? (ให้ช่วยรัดเข็มขัดไหมคะ)
  6. Please watch your step. (ระวังขั้นบันไดด้วยค่ะ)
  7. May I get you some water? (ให้ฉันเอาน้ำมาให้ไหมคะ)
  8. Do you feel comfortable? (คุณรู้สึกสบายดีไหมคะ)
  9. Is everything okay? (ทุกอย่างโอเคไหมคะ)
  10. Please let me know if you need anything. (หากต้องการอะไร บอกได้เลยค่ะ)
  11. Are you feeling okay? (คุณรู้สึกโอเคไหมคะ)
  12. Please remain seated. (กรุณานั่งอยู่กับที่ค่ะ)

การช่วยเหลือผู้โดยสารไม่เพียงแต่ต้องใช้ทักษะการบริการ แต่ยังต้องอาศัย
ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับลูกเรือ
ในการพูดอย่างสุภาพและมั่นใจ เพื่อให้ผู้โดยสารเชื่อมั่นในการดูแลของเรา

สถานการณ์ฉุกเฉิน (Emergency Situations)

การรับมือกับเหตุการณ์ ฉุกเฉิน บนเครื่องบิน นั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก หลายๆ คนนั้นมักจะเกิดอาการตกใจ หรือ ถึงขนาดพานิกกันได้

ซึ่งในขณะที่ฝึกเป็นลูกเรือทุกสายการบิน จะต้องเข้าคลาสฝึกกับสถานการณ์นี้ ก่อน และ สายการบินที่ได้มาตรฐานอย่างสายแขก จะฝึกอย่างน้อย 1 อาทิตย์ ในห้อง Mock Up ของเครื่องบินจริง

ซึ่ง ห้อง Mock Up นี้ก็จะมีระบบ Simulation ต่างๆ มากมาย ทั้งการฝึกไฟไหม้เครื่อง หรือ เหตุการณ์ที่จำเป็นจะต้องทำ Emergency Descent หรือ ต้อง ดิเพลนเครื่อง ไถ่ตัวผู้โดยสารลงพื้น

ซึ่งในเหตุการณ์ ฉุกเฉิน จะตั้งแต่ความตื่นตัวน้อยที่สุดไปสู่มากที่สุด Non-Normal Situations Unusual Situations Serious Situations Emergency

ซึ่งในภาวะเหตุการณ์เหล่านี้ ประโยชน์ของลูกเรือ คือ การที่ลูกเรือสามารถที่จะ สื่อสารกับผู้โดยสารอย่าง สุขุมที่สุด เพราะผู้โดยสารจะคอยมองหาความมั่นใจต่างๆ จากการสื่อสารที่ เงียบสงบ ความเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว ในการช่วยเหลือแนะนำว่าให้ทำอะไรอย่างมืออาชีพ มาเป็นอันดับต้นๆในเหตุการะสื่อสาร ดังนั้น น้องๆที่จะต้องเข้าเทรนนิ่ง อย่าลืมฝึกคำพูดเหล่านี้ไปด้วยนะคะ

  1. Please stay calm. (กรุณาใจเย็น ๆ ค่ะ)
  2. Follow the crew’s instructions. (กรุณาปฏิบัติตามคำแนะนำของลูกเรือค่ะ)
  3. This is the emergency exit. (นี่คือประตูทางออกฉุกเฉินค่ะ)
  4. Put on your life jacket. (กรุณาสวมเสื้อชูชีพค่ะ)
  5. Leave everything behind. (กรุณาทิ้งสัมภาระทั้งหมดค่ะ)

ในสถานการณ์ฉุกเฉิน การสื่อสารให้กระชับและชัดเจนสำคัญมาก แนะนำอ่าน
เทคนิค STEP สำหรับการตอบคำถามสมัครแอร์
เพื่อฝึกเล่าเหตุการณ์เป็นขั้นตอน ซึ่งช่วยเสริม ภาษาอังกฤษลูกเรือ ให้มั่นใจยิ่งขึ้น

การรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินไม่เพียงแต่ต้องใช้ทักษะด้านความปลอดภัย แต่ยังต้องใช้ **ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับลูกเรือ** ที่ชัดเจนและมั่นใจ เพื่อให้ผู้โดยสารเข้าใจทันทีว่าสถานการณ์เกิดอะไรขึ้นและควรทำตามคำแนะนำอย่างไร

หากน้องๆ อยากอ่านมาตรฐานการใช้
ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับลูกเรือ
ในการบินเพิ่มเติม สามารถดูได้จาก

ICAO Language Proficiency
.

การเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม (Meal & Beverage Service)

การเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องนั้น เป็นขั้นตอนที่สนุกอย่างหนึ่งแหล่ะคะ ในขบวนการทำงานบนเครื่องบิน เป็นขั้นตอนที่เราจะได้พูดคุยกับผู้โดยสาร ซึ่งในขณะที่เราเสิร์ฟนั้น น้องๆ อาจจะต้องพูดหลายรอบเลยก็ได้

การที่เรามี สต็อก คำพูด ต่างๆ ในระหว่างการเสิร์ฟ จะทำให้เราพูด ออกไปโดยอัติโนมัติ เลยทีเดียว ในขณะที่สมองอาจจะคิดล่วงไปแล้วด้วยซ้ำ ว่าขั้นตอนต่อไปจะต้องไปเติมอะไร เอาอะไร แบ่งเมนูอาหารไว้ยังไง เพราะถ้าไฟล์ทสั้น จะรู้สึกว่าต้องทำงานแข่งกับเวลา เพราะฉะนั้น

ประโยคภาษาอังกฤษเหล่านี้ แอร์แขกอยากจะให้น้องๆฝึกจำไว้ มีประโยชน์อย่างแน่นอนค่ะ

  1. May I offer you a drink? (ขอเสิร์ฟเครื่องดื่มให้ไหมคะ)
  2. Would you like juice, soda, or water? (คุณอยากดื่มน้ำผลไม้ น้ำอัดลม หรือน้ำเปล่าคะ)
  3. Sorry, we only have apple juice left. (ขอโทษค่ะ เหลือน้ำแอปเปิ้ลอย่างเดียวค่ะ)
  4. Please enjoy your drink. (เชิญดื่มให้สดชื่นค่ะ)
  5. Would you like ice with that? (คุณอยากได้ใส่น้ำแข็งไหมคะ)
  6. Please hold your cup. (กรุณาถือแก้วไว้ค่ะ)
  7. Would you like a straw? (คุณอยากได้หลอดไหมคะ)
  8. Would you like red wine or white wine? (คุณอยากดื่มไวน์แดงหรือไวน์ขาวคะ)
  9. Would you like some bread? (คุณอยากรับขนมปังไหมคะ)
  10. Please choose from the menu. (กรุณาเลือกจากเมนูค่ะ)
  11. Sorry, your choice is no longer available. (ขอโทษค่ะ เมนูที่เลือกหมดแล้วค่ะ)
  12. Please enjoy your meal. (ขอให้เพลิดเพลินกับมื้ออาหารค่ะ)
  13. May I take your tray? (ขอเก็บถาดอาหารนะคะ)
  14. Please fold your tray table before landing. (กรุณาพับโต๊ะก่อนเครื่องลงค่ะ)
  15. Here is your special meal. (นี่คืออาหารพิเศษของคุณค่ะ)
  16. Vegetarian meal? (นี่คืออาหารมังสวิรัติค่ะ)
  17. Kids meal? (นี่คืออาหารสำหรับเด็กค่ะ)
  18. Please let me know if you need more water. (บอกได้เลยถ้าอยากได้เพิ่มค่ะ)
  19. We will serve breakfast shortly. (เราจะเสิร์ฟอาหารเช้าเร็ว ๆ นี้ค่ะ)
  20. We will serve lunch soon. (เราจะเสิร์ฟอาหารกลางวันเร็ว ๆ นี้ค่ะ)
  21. We will serve dinner after take-off. (เราจะเสิร์ฟอาหารเย็นหลังเครื่องขึ้นค่ะ)
  22. Please enjoy the dessert. (ขอให้เพลิดเพลินกับของหวานค่ะ)
  23. Would you like some coffee after your meal? (คุณอยากดื่มกาแฟหลังอาหารไหมคะ)
  24. Please put your tray upright. (กรุณาปรับโต๊ะให้ตรงค่ะ)
  25. Thank you for returning your tray. (ขอบคุณที่ส่งถาดคืนค่ะ)

การคุยกับเด็กบนเครื่องบินก็เป็นอีกหนึ่งหน้าที่ที่ต้องใช้
ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับลูกเรือ
ที่เหมาะสมและเป็นมิตร เพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น

การคุยกับเด็ก (Talking to Kids)

หัวข้อหนึ่งในการพูดภาษาอังกฤษบนเครื่องคือการคุยกับเด็กค่ะ ซึ่งในการเอ็นด์เรื่องการใช้งานภาษาอังกฤษเนี่ย ถูกร้อยเรียงเอาไว้ตามสถานการณ์ต่างๆ จริงๆ บนเครื่องบิน ซึ่งลูกเรือทุกคนจะต้องเจอ

ไม่จำเป็นจะต้องเป็นแค่ เด็กที่เดินทางคนเดียวโดยไม่มีผู้ปกครองก็ได้นะคะ (UM กรณีนี้จะย่อมาจาก Unaccompanied Minor) แต่ถ้าสมมุติว่าเป็นไฟล์ทมีเด็กแน่นอน ลูกเรือต้องจัดเต็ม รีบเตรียมอุปกรณ์ต่างๆไว้ คุยเตรียมสื่อสารกับเด็กตามข้างล่างนี้ค่ะ

ฝึกฝนไปก่อน รับรองว่าน้องๆ จะมีแนวทางรับมือกับเจ้าตัวเล็ก ได้อย่าง Professional แน่นอนค่ะ

  1. Hello! What’s your name? (สวัสดีครับ/ค่ะ หนูชื่ออะไรเอ่ย)
  2. How old are you? (หนูอายุเท่าไหร่แล้วจ๊ะ)
  3. Are you excited to fly? (ตื่นเต้นที่จะได้ขึ้นเครื่องไหมเอ่ย)
  4. Would you like some juice? (อยากดื่มน้ำผลไม้ไหมจ๊ะ)
  5. Here’s a special snack for you. (นี่คือขนมพิเศษสำหรับหนูค่ะ)
  6. Would you like a coloring book? (อยากได้สมุดระบายสีไหมคะ)
  7. Please sit with mommy/daddy. (กรุณานั่งกับคุณพ่อ/คุณแม่นะคะ)
  8. Fasten your seatbelt, please. (รัดเข็มขัดด้วยนะคนเก่ง)
  9. Look outside, can you see the clouds? (ลองมองออกไปข้างนอกสิ เห็นก้อนเมฆไหม)
  10. Do you want a pillow or blanket? (อยากได้หมอนหรือผ้าห่มไหมจ๊ะ)
  11. Please don’t run in the aisle. (ห้ามวิ่งในทางเดินนะคะ)
  12. Can you put your toys away for take-off? (เก็บของเล่นก่อนเครื่องขึ้นได้ไหมจ๊ะ)
  13. You’re such a good boy/girl! (หนูเป็นเด็กดีมากเลยค่ะ)
  14. Would you like some headphones for the cartoon? (อยากได้หูฟังไว้ดูการ์ตูนไหมคะ)
  15. We will land soon. (อีกไม่นานเราจะถึงแล้วนะจ๊ะ)
  16. Do you want to see the cockpit after landing? (อยากไปดูห้องนักบินหลังเครื่องลงไหม)
  17. Let me help you open your snack. (เดี๋ยวพี่ช่วยแกะขนมให้นะ)
  18. It’s okay, don’t cry. (ไม่เป็นไรนะครับ/ค่ะ ไม่ต้องร้องไห้)
  19. Hold mommy’s hand, please. (จับมือคุณแม่ไว้นะคะ)
  20. Thank you for being so brave! (ขอบคุณที่เป็นเด็กกล้าหาญค่ะ)

การคุยกับเพื่อนร่วมงานตอนเตรียมอาหาร (Talking to Colleagues during Meal Prep)

ใครว่า ทำงานบนเครื่องบินนั้น ติดหรู ซึ่งแต่ละไฟล์ทจริงแล้วไหนจะต้องเสิร์ฟอาหารมือร้อนหลายร้อยชุด และ อาหารเหล่านั้น ก็ไม่ได้มีแค่เมนูเดียว แพ้อะไรอีกหรือไม่น่ะเหรอ? ฮ่าๆ

ซึ่งเมนูพื้นฐานก็อาจจะง่ายหน่อย แต่ถ้าเป็นอาหารพิเศษไหนจะต้องเตรียม เตรียมหาเนี่ย บางทีถ้าเราได้นั่งลง ก็คือนั่งเตรียมหาอาหารกันเนี่ยแหละค่าาาา

ซึ่งอาก็อยากจะให้น้องๆ ได้จำ ประโยค คำศัพท์ต่างๆ ของอาหารบนเครื่องไว้ด้วย รวมถึงเวลาที่คุยกันกับเพื่อนลูกเรือในการเตรียมอาหาร ใช้คำพูดแบบไหนอย่างไรมาดูกันค่ะ

  1. Can you pass me the tray, please? (ช่วยส่งถาดให้หน่อยได้ไหม)
  2. Where is the chicken meal? (ไก่อยู่ตรงไหนเหรอ)
  3. We need more bread rolls. (เราต้องใช้ขนมปังเพิ่มหน่อย)
  4. Can you heat up the pasta? (ช่วยอุ่นพาสต้าหน่อยได้ไหม)
  5. I’ll prepare the drinks. (ฉันจะเตรียมเครื่องดื่มให้เอง)
  6. Can you handle row 10 to 15? (ช่วยดูแลผู้โดยสารแถว 10 ถึง 15 ได้ไหม)
  7. Please check the special meals. (ช่วยเช็กอาหารพิเศษหน่อยนะ)
  8. Do we have any vegetarian left? (ยังเหลืออาหารมังสวิรัติไหม)
  9. The oven is ready. (เตาอบพร้อมแล้ว)
  10. We’re running out of orange juice. (น้ำส้มใกล้หมดแล้วนะ)
  11. Can you refill the coffee pot? (ช่วยเติมกาแฟหน่อยได้ไหม)
  12. Let’s start with the front cabin. (เราเริ่มเสิร์ฟจากด้านหน้าไหม)
  13. I’ll do the left side, you take the right. (ฉันดูฝั่งซ้าย เธอดูฝั่งขวานะ)
  14. Can you pass me some cups? (ช่วยส่งแก้วมาให้หน่อย)
  15. Don’t forget the kids’ meals. (อย่าลืมอาหารเด็กนะ)
  16. Can you bring extra sugar packets? (ช่วยเอาน้ำตาลเพิ่มมาหน่อย)
  17. The trolley is ready to go. (รถเข็นพร้อมแล้วนะ)
  18. Let’s double-check the meal count. (มาเช็กจำนวนอาหารอีกครั้งเถอะ)
  19. Please be careful, it’s hot. (ระวังนะ มันร้อน)
  20. Thank you for helping. (ขอบคุณที่ช่วยนะ)

การขายของบนเครื่องบิน (Duty-Free Sales)

การขายดิวตี้ฟรี ใช่แค่อาชีพเสริมสำหรับลูกเรือบนเครื่องบินนะคะ แต่มันคือการมอบประสบการณ์แทนการได้เดินเล่น ชอปปิ้ง ในระหว่างเดินทางเลยก็ว่าได้

ซึ่งนอกเหนือจาก สินค้าดิวตี้ฟรีที่ไม่มีภาษีแล้ว สายการบินต่างๆ ก็จะเตรียม ของที่ระลึก สินค้าพิเศษ จากนักออกแบบนั่นนี่ มาไว้สร้างประสบการณ์ให้กับผู้โดยสาร

ซึ่งลูกเรืออย่างเราๆ จะต้องใช้ ทักษะการนำเสนออย่างสุภาพ และความ น่าสนใจ และสร้างความรู้สึกคุ้มค่าให้กับผู้โดยสาร ว่า ทำไมพวกเขาถึงควรซื้ออะไรสักอย่าง จากดิวตี้ฟรีบนเครื่อง

เอาล่ะสำหรับน้องๆ ที่กำลังจะไปติดปีกฝึกฝน การพูดเหล่านี้เอาไว้ได้เลยค่ะ คำไหน เหมาะที่จะพูด คำไหนน่าพูดในการชวนผู้โดยสารให้ซื้อ จะพูดอย่างไรให้เขาสนใจขนาดต้องหันมาดู มาดูกันค่ะ

อีกหนึ่งหน้าที่สำคัญของลูกเรือคือการขายสินค้า Duty-Free ซึ่งจำเป็นต้องใช้ ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับลูกเรือ ในการนำเสนออย่างสุภาพและน่าสนใจ การมีคลัง ประโยคภาษาอังกฤษบนเครื่องบิน ที่เกี่ยวกับการขาย จะช่วยให้การสื่อสารกับผู้โดยสารเป็นธรรมชาติและเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากขึ้น

หน้าที่การขาย Duty-Free ต้องใช้ ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับลูกเรือ ที่สุภาพและโน้มน้าวใจ
ทบทวนคำศัพท์เฉพาะงานบริการจาก
คลังคำศัพท์ภาษาอังกฤษสำหรับลูกเรือ
ก่อนลงมือขายจริง จะช่วยให้บทสนทนาดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

  1. Would you like to see our duty-free catalog? (อยากดูแคตตาล็อกดิวตี้ฟรีไหมคะ)
  2. We have perfumes, watches, and cosmetics available. (เรามีน้ำหอม นาฬิกา และเครื่องสำอางค่ะ)
  3. This perfume is very popular. (น้ำหอมขวดนี้ขายดีมากค่ะ)
  4. We have a special promotion today. (วันนี้เรามีโปรโมชั่นพิเศษค่ะ)
  5. Buy two, get one free. (ซื้อสองแถมหนึ่งค่ะ)
  6. This watch comes with a two-year warranty. (นาฬิกาเรือนนี้มีประกันสองปีค่ะ)
  7. May I show you this new collection? (ให้ฉันแนะนำคอลเลกชันใหม่ไหมคะ)
  8. Would you like to try the fragrance? (อยากลองกลิ่นน้ำหอมไหมคะ)
  9. This is tax-free, so it’s cheaper than on the ground. (สินค้านี้ปลอดภาษี ราคาถูกกว่าบนพื้นดินค่ะ)
  10. May I recommend this limited edition? (ขอแนะนำรุ่นลิมิเต็ดค่ะ)
  11. It’s our best-seller. (อันนี้ขายดีที่สุดค่ะ)
  12. Please pay by card or cash. (สามารถจ่ายด้วยบัตรหรือเงินสดได้ค่ะ)
  13. Would you like a receipt? (คุณต้องการใบเสร็จไหมคะ)
  14. Your purchase will be delivered to your seat. (สินค้าจะถูกนำไปส่งที่นั่งของคุณค่ะ)
  15. Please check your change. (กรุณาตรวจสอบเงินทอนค่ะ)
  16. Thank you for your purchase. (ขอบคุณที่อุดหนุนค่ะ)
  17. I’ll pack this nicely for you. (เดี๋ยวฉันจะห่อให้เรียบร้อยค่ะ)
  18. Would you like a gift bag? (คุณอยากได้ถุงของขวัญไหมคะ)
  19. Don’t forget to check our special offers. (อย่าลืมดูโปรโมชั่นพิเศษนะคะ)
  20. Enjoy your shopping! (ขอให้สนุกกับการชอปปิ้งค่ะ)

การปลอบผู้โดยสารที่กลัวการบิน (Calming Nervous Passengers)

การเดินทางไม่ว่าครั้งไหนๆ บนเครื่องบิน ก็อาจจะทำให้หลายๆ คนเกิดความกังวลได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะถึงแม้กระทั่งดิฉันเอง คนที่ขึ้นเครื่องบินเป็นอาชีพ ก็มีบ้างที่จะวิตกไปเสียหมด เวลาเครื่องตีลังกาลงเนี่ย กรี้ากกกกก บนโลกนี้ มีคนที่กลัวการบินอยู่เยอะเหมือนกัน

ซึ่งโชคดี นักบินร้อยทั้งร้อย จะพาเราลงจบตรงกับ Runway ทุกครั้ง ทำให้เราทำงานต่อได้ ฮ่าๆ ล้อเล่นนะคะ ถ้าอ่านอยู่ รักนักบินทุกคนคะ พลีสที่จะแต่งงานด้วย เอ้ยย ทุกคนนนน เรื่องขำๆ While working as a Cabin Crew

เอาล่ะค่ะ แต่ในขณะที่น้องๆทำงาน บนเครื่องเจอผู้โดยสารที่วิตกเกี่ยวกับการขึ้นเครื่องบิน โดยเฉพาะช่วงของ อากาศแปรปรวน (Turbulence) นั้น ลูกเรือจะเหมือนต้องมี 1000 กีบนิ้ว ไปจับมือกับผู้โดยสารได้แบบไม่ยุ่งเลยค่ะ ฮ่าๆ

แล้ว น้องๆ จะปลอบผู้โดยสารอย่างไงล่ะว่า นี่มันปลอดภัย ปลอดโปร่ง ปลอดใส ขนาดไหน เอาให้แบบว่า ถึงกลัว ก็ต้องยอมนั่งเครื่องต่อแน่นอน

เอาล่ะ มาดูคำศัพท์เหล่านี้ดีกว่า ว่า ในแต่ละ สถานการณ์บนเครื่องบิน ควรพูดภาษาอังกฤษอย่างไร

  1. Please don’t worry, you are safe with us. (ไม่ต้องกังวลนะคะ คุณปลอดภัยกับเราค่ะ)
  2. Flying is one of the safest ways to travel. (การบินเป็นวิธีการเดินทางที่ปลอดภัยที่สุดค่ะ)
  3. I understand you feel nervous. (ฉันเข้าใจว่าคุณรู้สึกประหม่าค่ะ)
  4. Would you like some water? (อยากดื่มน้ำสักหน่อยไหมคะ)
  5. Take a deep breath, everything is fine. (หายใจลึก ๆ ค่ะ ทุกอย่างเรียบร้อยดี)
  6. Please try to relax. (กรุณาพยายามผ่อนคลายค่ะ)
  7. I’ll be nearby if you need me. (ฉันจะอยู่ใกล้ ๆ ถ้าคุณต้องการ)
  8. Holding onto the armrest might help. (จับที่วางแขนไว้จะช่วยได้นะคะ)
  9. Would you like a blanket to make you more comfortable? (อยากได้ผ้าห่มไหมคะ จะได้สบายขึ้น)
  10. Some light music may help. (ฟังเพลงเบา ๆ อาจช่วยได้ค่ะ)
  11. Turbulence is normal, it happens often. (อากาศแปรปรวนเป็นเรื่องปกติค่ะ เกิดขึ้นบ่อย)
  12. The seatbelt will keep you safe. (เข็มขัดนิรภัยจะช่วยให้คุณปลอดภัยค่ะ)
  13. You are doing great. (คุณทำได้ดีมากค่ะ)
  14. Would you like to talk with me until you feel better? (อยากให้ฉันคุยด้วยจนกว่าคุณจะรู้สึกดีขึ้นไหมคะ)
  15. Try to close your eyes and rest. (ลองหลับตาแล้วพักผ่อนดูค่ะ)
  16. Can I get you some tea to help you relax? (ให้ฉันเอาชามาให้ไหมคะ จะได้ผ่อนคลายขึ้น)
  17. Our pilots are very experienced. (นักบินของเรามีประสบการณ์สูงค่ะ)
  18. Everything is under control. (ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมค่ะ)
  19. You’re not alone — we are here for you. (คุณไม่ได้อยู่คนเดียว เราอยู่ตรงนี้เพื่อคุณค่ะ)
  20. Thank you for trusting us. (ขอบคุณที่ไว้ใจเรานะคะ)

การจัดการผู้โดยสารที่ก่อความรำคาญ (Unruly Passenger Handling)

ลูกเรือเป็นคนหน้าด่าน ที่จะต้องเจอคนเป็นพันๆ คนในทุกๆ ไฟล์ท ซึ่งยิ่งเราเป็นไฟล์ทที่ต้องเจอคนเยอะเท่าไหร่ โอกาสในการเจอคนที่เป็นปัญหาก็มีเยอะขึ้นเท่านั้น

และครับรูกสึก ผู้โดยสารจะหยิบเอา ห้องโดยสารมาเป็นสนามอารมณ์ได้เสียเยอะ อาจจะเป็นเพราะว่า พวกเขาทำอะไรมากไม่ได้ หรือ อารมณ์ค้างมาจากเคาน์เตอร์เช็คอิน

ซึ่งลูกเรือ ไม่ว่าจะกรณีไหน เราก็ต้องทำหน้าที่ ดูแลคนทั้งเครื่อง ซึ่งถ้าเกิดปัญหา วุ่นวาย มักจะเกิดจากเสียงที่ดังมากเกิน การถอดเสื้อ การกินเข้าของที่มีกลิ่น การใช้ภาษา การด่าทอกันไปมา และยาวไปถึงการทะเลาะ ทุบตีต่อยกัน

ซึ่งถ้าเราเจอปัญหาเหล่านี้ ต้องพยายามแก้ไขให้โดยเร็วที่สุด พยายามทำให้ห้องโดยสารกลับมาเป็นปกติให้เร็วที่สุด จะทำอย่างไรได้บ้างนั้น จะต้องสื่อสารภาษาอังกฤษ เหล่านี้

  1. Excuse me, sir/ma’am, please remain calm. (ขอโทษค่ะ กรุณาใจเย็นค่ะ)
  2. I’m afraid you cannot stand here. (เกรงว่าคุณไม่สามารถยืนตรงนี้ได้ค่ะ)
  3. Please return to your seat immediately. (กรุณากลับไปที่นั่งของคุณทันทีค่ะ)
  4. For your safety, please remain seated. (เพื่อความปลอดภัย กรุณานั่งอยู่กับที่ค่ะ)
  5. I’m afraid this behavior is not acceptable. (เกรงว่าพฤติกรรมนี้ไม่สามารถยอมรับได้ค่ะ)
  6. Please lower your voice. (กรุณาใช้เสียงเบาลงค่ะ)
  7. Other passengers need a calm environment. (ผู้โดยสารท่านอื่นต้องการบรรยากาศที่สงบค่ะ)
  8. If you need something, please let me know. (ถ้าคุณต้องการอะไร กรุณาบอกฉันค่ะ)
  9. Please follow the crew’s instructions. (กรุณาทำตามคำแนะนำของลูกเรือค่ะ)
  10. May I help you with anything to make you comfortable? (ฉันช่วยอะไรให้คุณสบายขึ้นได้ไหมคะ)
  11. If this behavior continues, we may need to take further action. (ถ้าพฤติกรรมนี้ยังดำเนินต่อไป เราอาจต้องดำเนินการเพิ่มเติมค่ะ)
  12. I understand you are upset. (ฉันเข้าใจว่าคุณกำลังไม่พอใจค่ะ)
  13. Let’s talk calmly. (เรามาคุยกันอย่างใจเย็นค่ะ)
  14. Please think about your safety and others around you. (กรุณาคิดถึงความปลอดภัยของคุณและคนรอบข้างค่ะ)
  15. I’ll check back on you later. (เดี๋ยวฉันจะกลับมาตรวจสอบคุณอีกครั้งค่ะ)
  16. This is your final warning. (นี่คือคำเตือนครั้งสุดท้ายค่ะ)
  17. Please respect the other passengers. (กรุณาให้เกียรติผู้โดยสารท่านอื่นด้วยค่ะ)
  18. We want everyone to have a pleasant flight. (เราต้องการให้ทุกคนมีการเดินทางที่ดีค่ะ)
  19. I’ll need to inform the captain if this continues. (ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อ ฉันจำเป็นต้องแจ้งกัปตันค่ะ)
  20. Thank you for your cooperation. (ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือค่ะ)

การจัดการผู้โดยสารที่ก่อความรำคาญต้องอาศัยความใจเย็นและการเลือกใช้
ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับลูกเรือ
ที่ชัดเจนและเด็ดขาด เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้ปลอดภัย

การคุยกับผู้โดยสารทั่วไปเพื่อสร้างความประทับใจ (Small Talk with Passengers)

การที่จะเข้าใกล้ความประทับใจของผู้โดยสารให้มากขึ้นนั้น ลูกเรือจำเป็นจะต้องเข้าใจถึงความรู้สึกที่ผู้โดยสารได้รับ ตั้งแต่ก้าวขาเข้ามาในปลาย ซึ่งความรู้สึกนั้นจะมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับลูกเรือด้วยว่าบริการอย่างไร

การพูดคุยสร้างความประทับใจ ให้กับผู้โดยสารนั้น จะสามารถช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นใจ และ เป็นกันเอง นอกจากนี้ยังให้โอกาสลูกเรือที่จะทำความรู้จักกับผู้โดยสารมากขึ้น ว่านั่งสบายไหม มีอะไรที่อยากจะขอเพิ่มไหม และแน่นอนว่า ผู้โดยสารต้องรู้สึกถึงความเอาใจใส่ ผูกมิตร อันนี้

ซึ่งลูกเรืิอย่างเราก็จะได้บุญ ในการสร้าง มิตรสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง ปร

อร์ดเข้่าถึงความรู้สึกที่ผู้โดยสารได้รับประทับใจ โดยวันนี้แอร์แขกอยากจะมาแชร์ ประโยคภาษาอังกฤษเล็กๆ น้อยๆ ที่ลูกเรือมักจะพูดเอาไว้สร้างความประทับใจให้กับผู้โดยสาร ดังนี้

  1. Is this your first time flying with us? (นี่เป็นครั้งแรกที่คุณบินกับเราไหมคะ)
  2. Are you traveling for business or leisure? (คุณเดินทางเพื่อธุรกิจหรือท่องเที่ยวคะ)
  3. How was your day before the flight? (วันนี้ก่อนขึ้นเครื่องเป็นอย่างไรบ้างคะ)
  4. Are you connecting to another flight after this? (คุณมีไฟลท์ต่อหลังจากนี้ไหมคะ)
  5. Where will you be staying during your trip? (คุณจะพักที่ไหนระหว่างทริปคะ)
  6. Have you visited this destination before? (คุณเคยไปจุดหมายนี้มาก่อนหรือยังคะ)
  7. I hope you enjoy your trip. (หวังว่าคุณจะเพลิดเพลินกับทริปนี้นะคะ)
  8. Do you often travel by air? (คุณเดินทางด้วยเครื่องบินบ่อยไหมคะ)
  9. The weather at your destination is very nice today. (อากาศที่จุดหมายวันนี้ดีมากค่ะ)
  10. Is there anything you’re looking forward to at your destination? (มีสิ่งไหนที่คุณตั้งตารอที่จุดหมายปลายทางไหมคะ)
  11. Do you need any tips about the city? (อยากได้คำแนะนำเกี่ยวกับเมืองนั้นไหมคะ)
  12. That sounds wonderful! (ฟังดูยอดเยี่ยมมากค่ะ)
  13. I hope this flight will be comfortable for you. (หวังว่าไฟลท์นี้จะสบายสำหรับคุณนะคะ)
  14. I’ll be here if you need anything. (ฉันจะอยู่ที่นี่ถ้าคุณต้องการอะไร)
  15. Do you enjoy traveling often? (คุณชอบการเดินทางบ่อย ๆ ไหมคะ)
  16. What is your favorite part of flying? (คุณชอบส่วนไหนของการบินมากที่สุดคะ)
  17. Thank you for choosing to fly with us. (ขอบคุณที่เลือกบินกับเราค่ะ)
  18. It’s always a pleasure to meet new people. (การได้พบผู้โดยสารใหม่ ๆ เป็นเรื่องที่น่ายินดีค่ะ)
  19. I hope you have a memorable journey. (หวังว่าคุณจะมีการเดินทางที่น่าจดจำนะคะ)
  20. Safe travels and enjoy your flight. (เดินทางปลอดภัยและสนุกกับไฟลท์ค่ะ)

การคุยกับผู้โดยสาร VIP (VIP Passenger Service)

การดูแลผู้โดยสารระดับวีไอพี ซึ่งผู้โดยสารเหล่านี้ มักจะเป็นนักธุรกิจ นักการเมือง ดารานักแสดง หรือ นักร้อง ดัง ในละครน้ำเน่า ที่มีลูกเรือตกหลุมรักผู้โดยสารเนี่ยแหล่ะค่ะ ซึ่งบางไฟล์ทก็จะมีจัดเต็มมาแทบทั้งลำ ไม่แน่ใจว่ารวยมาจากไหน ซื้อบัตรเป็นร้อยๆ ใบ ฮ่าๆ

ซึ่งผู้โดยสาร วีไอพีเหล่านี้ มักจะนั่งกันบน ชั้นหนึ่ง First Class หรือ ชั้นธุรกิจ Bussiness Class Upgade with Thai Airways ตัวใหม่ล่าสุดของโบอิ้ง 787 Dreamliner ตรงๆ แต่ถ้าเป็นชั้น 1 นั้น การีนตี ว่าผู้โดยสารมี Profile ที่ไม่ธรรมดา

ซึ่งหน่าที่ของลูกเรือคือ การดูแลให้ผู้โดยสารเหล่านี้ ประทับใจตั้งแต่แรกขึ้นเครื่อง ไปจนถึงการลา ส่ง โดย สิ่งที่เราสามารถช่วยให้ผู้โดยสารรู้สึกสบายมากที่สุด ในระหว่างการเดินทางบนเที่ยวบินคืออะไรบ้าง เราควรพูดกับเขาอย่างไร

  1. Welcome on board, Mr./Mrs. ______. It’s an honor to have you with us today. (ยินดีต้อนรับบนเครื่องค่ะ คุณ… เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ดูแลคุณวันนี้)
  2. May I escort you to your seat, please? (ให้ฉันพาคุณไปที่นั่งนะคะ)
  3. Please allow me to stow your belongings for you. (กรุณาอนุญาตให้ฉันเก็บสัมภาระของคุณให้ค่ะ)
  4. Would you like a welcome drink before take-off? (คุณอยากดื่มเครื่องดื่มต้อนรับก่อนเครื่องขึ้นไหมคะ)
  5. We have champagne, fresh juice, and sparkling water available. (เรามีแชมเปญ น้ำผลไม้สด และน้ำแร่ให้เลือกค่ะ)
  6. May I offer you today’s menu? (ให้ฉันนำเสนอเมนูอาหารวันนี้นะคะ)
  7. If you have any special requests, please let me know. (หากคุณมีคำขอพิเศษใด ๆ กรุณาบอกฉันได้เลยค่ะ)
  8. Would you prefer to dine now or later during the flight? (คุณอยากทานอาหารตอนนี้หรือภายหลังระหว่างการบินคะ)
  9. Please allow me to set up your table. (กรุณาอนุญาตให้ฉันจัดโต๊ะอาหารให้ค่ะ)
  10. Here is a hot towel for your refreshment. (นี่คือผ้าอุ่นสำหรับคุณค่ะ)
  11. May I adjust the lighting for your comfort? (ให้ฉันปรับแสงไฟเพื่อความสะดวกสบายของคุณไหมคะ)
  12. If you need privacy, I can close the curtain for you. (ถ้าคุณต้องการความเป็นส่วนตัว ฉันสามารถปิดม่านให้ได้นะคะ)
  13. We have a selection of fine wines. Would you like to see the wine list? (เรามีไวน์ชั้นดีให้เลือก คุณอยากดูเมนูไวน์ไหมคะ)
  14. Please let me know if the cabin temperature is comfortable for you. (กรุณาบอกฉันหากอุณหภูมิในห้องโดยสารไม่สบายสำหรับคุณ)
  15. Would you like me to prepare your seat for sleeping later? (คุณอยากให้ฉันเตรียมที่นั่งสำหรับพักผ่อนภายหลังไหมคะ)
  16. May I offer you our signature dessert? (ให้ฉันเสิร์ฟขนมหวานซิกเนเจอร์ของเราไหมคะ)
  17. If there’s anything I can do to make your flight more enjoyable, please let me know. (หากมีสิ่งใดที่ฉันสามารถทำให้เที่ยวบินของคุณดียิ่งขึ้น กรุณาบอกได้เลยค่ะ)
  18. Thank you for flying with us, it’s our privilege to serve you. (ขอบคุณที่เลือกบินกับเรา เป็นเกียรติที่ได้ดูแลคุณค่ะ)
  19. I hope everything is to your satisfaction. (หวังว่าทุกอย่างจะเป็นที่พอใจของคุณค่ะ)
  20. Have a wonderful journey and we look forward to welcoming you again. (ขอให้มีการเดินทางที่ยอดเยี่ยม และเราหวังว่าจะได้ต้อนรับคุณอีกครั้งค่ะ)

การขอ Feedback จากผู้โดยสาร (Requesting Feedback)

การใช้กลยุทธ์ทางด้านภาษาในการขอรับ Feedback จากผู้โดยสารด้วยภาษาอังกฤษนะคะ เราสามารถใช้ประโยคเหล่านี้ได้เลยค่ะขอเป็น ประโยชน์ เหมือนเดิม เหมือนกับโพส 200 ประโยคคุยกับผู้โดยสารนะค้าาา เลิ้ฟๆ

ขอบคุณที่แชร์โพสลงในกลุ่ม แชร์ต่อกับเพื่อนๆ แอร์แขกทำต่อเลย ฮ่าๆ เอาฮา ฝึกต่อด้วยนะคะ ฮ่าๆ

  1. May I ask how your flight experience has been so far? (ขอสอบถามหน่อยค่ะ การเดินทางของคุณจนถึงตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ)
  2. I hope everything has been comfortable for you today. (หวังว่าทุกอย่างจะสบายสำหรับคุณในวันนี้นะคะ)
  3. Was the meal service to your satisfaction? (การบริการอาหารเป็นที่พอใจของคุณหรือไม่คะ)
  4. Did you find the in-flight entertainment enjoyable? (คุณเพลิดเพลินกับความบันเทิงบนเครื่องไหมคะ)
  5. Is there anything we could improve on for your next flight? (มีอะไรที่เราสามารถปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นสำหรับไฟลท์หน้าของคุณไหมคะ)
  6. Thank you for sharing your thoughts with us. (ขอบคุณที่แบ่งปันความคิดเห็นกับเราค่ะ)
  7. Your feedback is very valuable to us. (ความคิดเห็นของคุณมีคุณค่ามากสำหรับเราค่ะ)
  8. We truly appreciate your input. (เราซาบซึ้งมากที่คุณให้คำแนะนำค่ะ)
  9. May I kindly ask if the cabin temperature was comfortable? (ขอสอบถามอย่างสุภาพว่าอุณหภูมิในห้องโดยสารสบายสำหรับคุณไหมคะ)
  10. Was the crew able to assist you properly during the flight? (ลูกเรือได้ช่วยเหลือคุณอย่างเหมาะสมระหว่างไฟลท์ไหมคะ)
  11. Did you enjoy the selection of beverages today? (คุณพอใจกับเครื่องดื่มที่เราเสิร์ฟวันนี้ไหมคะ)
  12. Is there anything we could have done better? (มีสิ่งใดที่เราควรทำให้ดีกว่านี้ไหมคะ)
  13. Would you like to fill out a short feedback form? (คุณอยากกรอกแบบฟอร์ม feedback สั้น ๆ ไหมคะ)
  14. Your comments will help us improve our service. (ความคิดเห็นของคุณจะช่วยให้เราพัฒนาบริการได้ค่ะ)
  15. We hope to exceed your expectations next time. (เราหวังว่าจะเกินความคาดหวังของคุณในครั้งหน้าค่ะ)
  16. Thank you for flying with us today. (ขอบคุณที่เลือกบินกับเราในวันนี้ค่ะ)
  17. We look forward to welcoming you again. (เราหวังว่าจะได้ต้อนรับคุณอีกครั้งค่ะ)
  18. I hope this has been a pleasant journey for you. (หวังว่านี่จะเป็นการเดินทางที่น่าพอใจสำหรับคุณค่ะ)
  19. Safe travels and we hope to see you soon. (เดินทางโดยสวัสดิภาพ และหวังว่าจะได้เจอคุณอีกเร็ว ๆ นี้ค่ะ)
  20. Thank you so much for your valuable feedback. (ขอบคุณมากสำหรับความคิดเห็นที่มีค่าของคุณค่ะ)

การคุยกับผู้โดยสารเด็ก – เครื่องดื่ม & การ์ตูน (Talking to Child Passenger – Drinks & Cartoons)

สำหรับการดูแลผู้โดยสารเด็ก บนเครื่องบิน นั้นจะต้องใช้ความพยายามในการทำให้เด็กรู้สึกความเพลิดเพลินไปกับเครื่องดื่ม ขนม ของเล่น ตลอดจน การนำเสนอการดูการ์ตูน หรือ เล่นเกมส์บนหน้าจอของสายการบินด้วย

จะช่วยให้การเดินทางของเด็กสนุกขึ้น รวมถึง ทำให้เด็กไม่เบื่อ ในระหว่างการเดินทาง ลูกเรือจะต้องสามารถเชิญชวนเด็กได้ รวมถึงต้องรู้จักการชักชวน เพื่อให้เด็กไม่ร้อง ไม่กวนผู้โดยสารท่านอื่นในระหว่างไฟล์ทด้วย

ซึ่งเอาจริง วิธีการนี้จะช่วยให้คุณพ่อ คุณแม่ สบายไปด้วยได้นะคะ คือ พ่อแม่น่ะเค้าได้ฏิบัติลูกมาอยู่แล้วว่าให้วางตัวอย่างไร แต่มันก็อดไม่ได้ ที่เด็กเค้าจะซุกซุนเป็นเด็กๆ เนี่ยนะคะ ซึ่งถ้าลูกเรือสามารถที่จะ เอาใจดึง ความสนใจเด็กให้มาอยู่กับเราได้ บอกเลยว่า คุณพ่อ คุณแม่ ปลื้มยิ้มแก้มแตก กับหล่บแน่นอน

และวันนี้ แอร์แขกจะมี คำพูดที่ลูกเรือ ควรพูดกับผู้โดยสารเด็ก เอาไว้เชิญชวนให้เด็กดูการ์ตูน ให้สนใจ อะไรจากหน้าจอให้ยาวนานที่สุด

  1. Hello John, welcome on board. May I offer you something to drink? (สวัสดีจอห์น ยินดีต้อนรับบนเครื่องค่ะ อยากดื่มอะไรไหมคะ)
  2. Would you like orange juice, apple juice, or water? (คุณอยากดื่มน้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ล หรือว่าน้ำเปล่าดีคะ)
  3. I can bring you some milk if you prefer. (ถ้าคุณอยากดื่มนม ฉันนำมาให้ได้ค่ะ)
  4. Here is your drink. Please enjoy. (นี่คือเครื่องดื่มของคุณค่ะ เชิญดื่มได้เลยค่ะ)
  5. Would you like a straw with your juice? (คุณอยากได้หลอดคู่กับน้ำผลไม้ไหมคะ)
  6. We also have cookies and snacks. Would you like some? (เรามีคุกกี้และขนมด้วย คุณอยากทานไหมคะ)
  7. John, would you like to watch something on the screen? (จอห์น อยากดูอะไรบนหน้าจอไหม เดี๋ยวพี่สอนวิธีใช้นะคะ)
  8. You can use this button to change the channel. (คุณสามารถกดปุ่มนี้เพื่อเปลี่ยนช่องได้ค่ะ)
  9. If you’d like the sound louder or softer, use this button here. (ถ้าอยากปรับเสียงดังหรือเบา ใช้ปุ่มนี้ค่ะ)
  10. Do you need headphones to listen clearly? (คุณอยากได้หูฟังเพื่อฟังชัด ๆ ไหมคะ)
  11. Is the screen brightness okay for you? (ความสว่างของหน้าจอเหมาะสำหรับคุณไหมคะ)
  12. Would you like me to put on a popular cartoon for you? (คุณอยากให้ฉันเปิดการ์ตูนยอดนิยมให้ไหมคะ)
  13. We also have games on the screen. Would you like to try one? (เรามีเกมบนหน้าจอด้วย คุณอยากลองเล่นไหมคะ)
  14. If you need any help, just press this button and I’ll be here. (ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือ กดปุ่มนี้ได้เลยค่ะ ฉันจะมาทันที)
  15. After this cartoon, would you like to choose another one? (หลังจากการ์ตูนเรื่องนี้ คุณอยากเลือกเรื่องอื่นต่อไหมคะ)
  16. That’s a great choice. I like that cartoon too. (คุณเลือกได้ดีมากเลยค่ะ เรื่องนั้นฉันก็ชอบเหมือนกัน)
  17. Enjoy your movie and your drink. If you need anything else, let me know. (ขอให้สนุกกับการ์ตูนและเครื่องดื่มนะคะ ถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติม บอกได้เลยค่ะ)

การพูดกับผู้โดยสารให้รอ (Asking Passengers to Wait)

เวลาที่ลูกเรือให้ผู้โดยสารรอ เรามักจะมีเรื่องมากมายให้ทำ กลับไปหาของอะไรสักอย่างนะคะ ซึ่งทุกท่านก็อยากจะกลับมาให้ได้เร็วที่สุดที่จะทำได้ แต่มันอาจจะหลงลืม หรือ เผลอไปทำอะไรสักอย่างที่การดึงเวลาเรานานได้

ซึ่งเวลานี้เอง เราควรที่จะแจ้งผู้โดยสารให้ทราบว่าอาจจะต้องรอสักครู่ แล้วขึ้นอยู่กับว่าเราพูดว่าอย่างไรด้วย

แอร์แขกมีประโยคต่างๆ ที่เราสามารถใช้ในการพูดให้ผู้โดยสานรอ อย่างสุภาพที่สุด ตามแบบ ลูกเรือมืออาชีพ

  1. Please wait for a moment. (กรุณารอสักครู่ค่ะ)
  2. I’ll be right back with you shortly. (เดี๋ยวฉันจะกลับมาหาคุณในอีกสักครู่ค่ะ)
  3. May I kindly ask you to wait for a few minutes? (ขอความกรุณารอสักครู่ได้ไหมคะ)
  4. I’ll check on that and return to you soon. (ฉันจะไปตรวจสอบแล้วรีบกลับมาหาคุณค่ะ)
  5. Thank you for your patience. (ขอบคุณที่รอนะคะ)
  6. I’ll get back to you as quickly as possible. (ฉันจะรีบกลับมาหาคุณให้เร็วที่สุดค่ะ)
  7. Please allow me a few minutes to prepare that for you. (กรุณาให้เวลาฉันสักครู่เพื่อเตรียมให้คุณค่ะ)
  8. Could you kindly wait while I assist another passenger? (ขอความกรุณารอสักครู่ ระหว่างที่ฉันช่วยผู้โดยสารท่านอื่นก่อนค่ะ)
  9. I’ll let you know once it is ready. (ฉันจะแจ้งให้คุณทราบเมื่อทุกอย่างพร้อมค่ะ)
  10. Please remain seated while I arrange this for you. (กรุณานั่งรอในที่นั่งระหว่างที่ฉันจัดการให้ค่ะ)
  11. This will only take a short while. (ใช้เวลาเพียงไม่นานค่ะ)
  12. I appreciate your understanding while you wait. (ขอบคุณที่เข้าใจในระหว่างรอค่ะ)
  13. I’ll bring it to your seat once it’s ready. (ฉันจะนำมาให้ที่ที่นั่งเมื่อพร้อมค่ะ)
  14. Could you please give me a moment to confirm that? (ช่วยรอสักครู่ ฉันขอตรวจสอบก่อนค่ะ)
  15. I’ll just need a couple of minutes. (ฉันขอเวลาเพียงสองสามนาทีค่ะ)
  16. Please wait here while I get the information for you. (กรุณารอตรงนี้ระหว่างที่ฉันไปหาข้อมูลมาให้ค่ะ)
  17. I’ll update you as soon as possible. (ฉันจะแจ้งคุณทันทีเมื่อทราบค่ะ)
  18. Thank you for waiting, I truly appreciate it. (ขอบคุณที่รอค่ะ ฉันซาบซึ้งจริง ๆ)
  19. I’ll prioritize your request and be back shortly. (ฉันจะจัดการคำขอของคุณเป็นลำดับแรก แล้วรีบกลับมาค่ะ)
  20. Please bear with me for just a moment. (กรุณาอดใจรอสักครู่ค่ะ)

ช่วงบอกลาเป็นโอกาสสุดท้ายในการสร้างความประทับใจ ลองเตรียมแนวคิดตอบคำถาม/สื่อสารปลายไฟลท์จาก
How to Become a Flight Attendant
เพื่อยกระดับการใช้ ภาษาอังกฤษลูกเรือ ให้ดูมืออาชีพ

หากอยากเจอประโยคสนทนาที่ใกล้เคียงการทำงานจริงบนเครื่องบินมากขึ้น
แนะนำอ่าน
100 บทสนทนาบนเครื่องบิน ภาษาอังกฤษ
ซึ่งรวมประโยคการบริการและความปลอดภัยที่ลูกเรือใช้จริงทุกวัน

การบอกลาผู้โดยสารคือช่วงเวลาสุดท้ายที่ลูกเรือจะได้ใช้
ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับลูกเรือ
ในการสร้างความประทับใจและความทรงจำที่ดี

การบอกลาผู้โดยสาร (Farewell to Passengers)

การบอกลาผู้โดยสาร หลังจากเครื่องบิน ลงจอดหยุดเรียบร้อยแล้ว นับว่าเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ไม่กี่นาที ก่อนที่ลูกเรือจะได้มาทำความรู้จัก และ อำลาผู้โดยสารด้วย รอยยิ้ม และ คำพูดที่อ่อนหวาน

ซึ่งเวลานี้ จะเป็น ช่วงเวลาไฟนอลสุดท้ายแล้ว ที่ลูกเรือจะได้ บอก ได้ทำ อะไรกับผู้โดยสารให้ดีที่สุด ในการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ ให้กับผู้โดยสาร ด้วยคำพูด และ การกระทำของเรา

การกล่าวอำลา จากสายการบิน ด้วยคำพูดภาษาอังกฤษเหล่านี้ จะช่วยสร้าง อำลากลิ่นหอม ให้ติดปีก จำสายการบิน ของเราไปได้ตลอดด้วยประโยคเหล่านี้

การกล่าวอำลาเป็นโอกาสสุดท้ายที่ลูกเรือจะสร้างความประทับใจ การเลือกใช้ ภาษาอังกฤษลูกเรือ ที่อบอุ่นและสุภาพ จะทำให้ผู้โดยสารจดจำสายการบินในทางที่ดี ประโยคภาษาอังกฤษสำหรับลูกเรือ ในช่วงการบอกลา จึงเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญของ ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับลูกเรือ ที่ควรฝึกฝนไว้เสมอ

  1. Thank you for flying with us today. (ขอบคุณที่เลือกบินกับเราในวันนี้ค่ะ)
  2. We hope you had a pleasant flight. (เราหวังว่าคุณจะมีไฟลท์ที่น่าพอใจค่ะ)
  3. Have a wonderful stay at your destination. (ขอให้คุณมีช่วงเวลาที่ดีที่จุดหมายค่ะ)
  4. We look forward to welcoming you again soon. (เราหวังว่าจะได้ต้อนรับคุณอีกครั้งเร็ว ๆ นี้ค่ะ)
  5. It was a pleasure having you on board. (เป็นความยินดีที่ได้มีคุณบนเที่ยวบินค่ะ)
  6. Safe travels and enjoy the rest of your journey. (เดินทางโดยสวัสดิภาพและขอให้สนุกกับการเดินทางต่อค่ะ)
  7. We hope to see you again on your next flight. (เราหวังว่าจะได้เจอคุณอีกในไฟลท์ถัดไปค่ะ)
  8. Have a great day ahead. (ขอให้คุณมีวันที่ดีค่ะ)
  9. Wishing you a wonderful trip. (ขอให้คุณมีทริปที่ยอดเยี่ยมค่ะ)
  10. Thank you for being our valued passenger. (ขอบคุณที่เป็นผู้โดยสารคนสำคัญของเราค่ะ)
  11. Goodbye and take care. (ลาก่อนค่ะ ดูแลตัวเองด้วยนะคะ)